บทนำ : จัดระบบฉีดวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการรับมือสถานการณ์ระบาดโควิด ที่พัฒนาไปถึงระดับมีผู้ติดเชื้อใกล้แตะหลัก 3 พันคน ด้วยการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งเคอร์ฟิว ขณะที่ภาคเอกชน เสนอมาตรการเข้มข้น ให้เคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ และกำหนดเวลาปิดห้าง ปิดร้านสะดวกซื้อกันเอง ถือเป็นสถานการณ์วิกฤต ปัญหาสำคัญคือ การที่ประเทศไทยไม่มีวัคซีนในมือที่จะระดมฉีดให้ประชาชนอย่างรวดเร็ว ตัวเลขที่จะฉีด 100 ล้านโดสให้คนไทย 50 ล้านคนในสิ้นปี เป็นโครงการ ที่ยังไม่มีวัคซีนอยู่ในมือ

ในขั้นตอนนี้ จึงเป็นขั้นตอนของการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีเตียงรองรับ ไม่มีโรงพยาบาลยื่นมือมาให้การรักษา จนเสียชีวิตไป ทั้งๆ ที่ประเทศไทยได้ชื่อว่า มีความเพียบพร้อมทางด้านสาธารณสุข ทั้งภาครัฐและเอกชน ข่าวคราวของผู้เสียชีวิต เพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างฉับไว เกิดขึ้นทุกวัน สะท้อนการบริหารจัดการเกี่ยวกับการดูแลประชาชนให้ได้รับการรักษาว่ายังมีข้อบกพร่อง

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหา หนีไม่พ้นการลงมือฉีดวัคซีนทันที รัฐบาลต้องเร่งจัดหาวัคซีน และลงมือจัดระบบฉีด นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ระบุว่ารัฐบาลให้สัญญาจะฉีดวัคซีนอย่างน้อย 60-100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี เริ่มตั้งแต่ มิถุนายนนี้เป็นต้นไป จึงมีเวลา 6 เดือนในการฉีด 60 ล้านเข็มให้คนไทย 60 ล้านคน ประชาชนแต่ละคน ต้องได้รับวัคซีน 1 โดส ก่อนสิ้นปี การจะฉีด 60 ล้านโดส ใน 6 เดือน ต้องฉีดเดือนละ 10 ล้านเข็ม หรือเดือนละ 300,000 เข็ม ไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้ อย่างภูเก็ต ฉีดวันละ 10,000 เข็ม ถ้าทุกจังหวัดทำได้ จะฉีดได้ 770,000 เข็มต่อวัน เกินเป้า 300,000 เข็มต่อวันภายในสิ้นปี

หัวหน้าพรรคกล้าย้ำว่าในเดือนพฤษภาคมนี้รัฐบาลต้องนำประชาชนมาขึ้นทะเบียนให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมฉีด ถือเป็นการวิเคราะห์ที่น่าสนใจ เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลน่าจะรับไปพิจารณา พร้อมๆ กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หาเตียงให้ผู้ติดเชื้อและฉีดวัคซีนเพื่อสร้างเกราะคุ้มกันสำหรับประชาชนทั้งประเทศ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image