‘ก้าวไกล’ จวก ‘กองทัพ’ ทหารรับใช้ขาดมือ ยืนกรานไม่เลื่อนเกณฑ์กำลังพล ชี้ กินนอนร่วมค่าย กลายเป็นคลัสเตอร์บรรลัยแน่
เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่กองทัพประกาศยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เลื่อนการเรียกทหารเกณฑ์ ว่า การที่กองทัพไม่ยอมเลื่อนกำหนดการ และอ้างว่ามีการออกมาตรการป้องกันโรคที่รัดกุมในทุกเรื่อง แต่รัฐบาลกลับห้ามประชาชนจัดกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 50 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ และ กทม.ก็ออกคำสั่งปิดสถานศึกษา สถานบริการ สถานบันเทิงต่างๆ เป็นระยะเวลา 14 วัน หรือหากคิดง่ายๆ สมมุติว่า 1 พ.ค.นี้ จะเป็นวันเปิดภาคเรียน รัฐบาลก็คงจะต้องสั่งระงับการเรียนการสอนแบบปกติและให้เรียนทางออนไลน์แทน
นายพิจารณ์กล่าวว่า เมื่ออ่านข้ออ้างของกองทัพแล้วก็รู้สึกขำ เพราะถึงขนาดสั่งให้การเดินทางเข้ารายงานตัวในหน่วยต่างๆ ให้เดินทางในเวลากลางคืน เพื่อป้องกันความแออัดในกรณีที่ต้องหยุดพักเข้าห้องน้ตามปั๊มน้ำมัน แต่กลับไม่มีการวางแผนที่จะใช้ชุดตรวจ PCR หรือ Rapid Test ในการคัดกรองโรคทหารเกณฑ์ใหม่ มีแค่เพียงการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเพียงเท่านั้น สรุปว่านี่คือการคัดกรองคนเข้าห้างสรรพสินค้าหรือเข้าค่ายทหารกันแน่
“ความน่าเป็นห่วงของเรื่องนี้คือการรวมตัวของทหารเกณฑ์ใหม่ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ หากมีทหารเกณฑ์ที่เป็นผู้ติดเชื้อ แต่ยังไม่มีอาการปะปนเข้าไปฝึก และกินนอนร่วมกัน แล้วเกิดการแพร่ระบาดในค่ายทหารกันขึ้นมาบรรลัยแน่ เพราะจำนวนทหารเกณฑ์ผลัด 1 มีถึง 30,000 คนเศษ” นายพิจารณ์กล่าว
อ่านข่าว : โฆษก ทบ. ยันไม่เลื่อนทหารเกณฑ์ เข้าค่าย รายงานตัว 1 พ.ค.ตามเดิม ย้ำมาตรการรัดกุม
นายพิจารณ์กล่าวว่า หากกองทัพไม่สามารถชี้แจงถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องให้ทหารเกณฑ์รายงานตัวในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันแบบนี้ได้ ก็เรียกร้องให้เลื่อนการรายงานตัวออกไปก่อน เชื่อว่าการเลื่อนออกไป 30-60 วัน จะเสียหายน้อยกว่ากองทัพเป็นแหล่งคลัสเตอร์ใหญ่ในการแพร่เชื้อเสียเอง ภายใต้สถานการณ์ที่ความพร้อมด้านสาธารณสุขยังมีปัญหาแบบนี้ ล่าสุดมีข่าวจากกรมควมคุมโรคว่าได้มีการประชุมร่วมกับผู้แทนกองทัพในประเด็นนี้ คงต้องรอดูว่าในวันสองวันนี้กองทัพจะยอมเลื่อนหรือไม่
ขณะที่ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ซึ่งเคยเป็นทหารเกณฑ์มาก่อนได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอใช้มุมมองจากประสบการณ์แสดงทรรศนะ ตนคิดว่ากรณีที่เกิดขึ้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังแพร่ระบาดรุนแรง
นายณัฐชากล่าวว่า ขอเรียกร้องให้กองทัพพิจารณาการเรียกกำลังพลเข้ารับราชการทหารของกองทัพครั้งนี้ใหม่ และขอตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่กองทัพจำเป็นต้องเรียกพลทหารเข้ากองทัพเวลานี้ เพราะเหล่าทัพขาดทหารรับใช้ใช่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันพบว่าส่วนใหญ่ทหารที่รับราชการในกองทัพก็ปฏิบัติงานในรูปแบบ work form home จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นใดในการที่กองทัพจะเรียกพลทหารเข้าประจำการ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
“กรณีนี้หากกองทัพจะดำเนินการต่อ เกรงว่าพลทหารกว่า 30,000 นาย มาจากทุกสารทิศที่มารวมตัวกัน จะต้องพบเจอความเสี่ยงทั้งต่อตัวพวกเขาเอง และต่อสถานการณ์ในภาพรวมที่อาจกลายเป็นแหล่งเเพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 คลัสเตอร์ใหม่
“เรื่องนี้จึงขอให้กองทัพออกมาชี้แจง โดยเฉพาะผู้นำเหล่าทัพ ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องชี้เเจงต่อประชาชน ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบกต่อกรณีดังกล่าว” โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุ