เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นที่มีข่าวคนขับรถติดโควิด-19 ว่า ยอมรับว่าติดจริง แต่เผอิญให้คนขับรายดังกล่าวหยุดพักไปเกือบ 1 เดือน และเพิ่งจะกลับมาเริ่มงานวันพุธที่ 21 เมษายน โดยยังไม่ให้มาขับรถให้ตน จนกว่าจะไปตรวจหาเชื้อโควิดก่อนค่อยมาเริ่มขับ
นายเสกสกลกล่าวว่า คนขับดังกล่าวได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิดที่สถาบันบำราศนราดูร ในวันพฤหัสที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า พบการติดเชื้อโควิด จึงเข้าทำการพักรักษาตัวที่ รพ.สนามของสถาบันฯ เนื่องจากยังไม่ปรากฏอาการผิดปกติในร่างกาย แต่เมื่อพบเชื้อก็ต้องรักษาดูแลอาการตามขั้นตอนของแพทย์จนกว่าจะหายเป็นปกติ และตนได้บอกให้ทีมงานคนไหนที่ใกล้ชิดคนขับรถคนนี้ไปตรวจทุกคน และกักตัว 14 วัน ปฏิบัติตนตามคำแนะนำแพทย์ให้ถูกต้อง
นายเสกสกลกล่าวว่า ส่วนตนนั้นได้ฉีดวัคซีนไปแล้วครบสองครั้ง และตรวจร่างกายหาเชื้ออย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ครั้ง ตั้งแต่ก่อนทราบข่าวคนขับรถติด ก็ตรวจ 2 ครั้ง และพอทราบผลก็ตรวจอีกครั้ง ผลปรากฏยังไม่พบเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่ประมาทเด็ดขาด จะปฏิบัติดูแลตัวเองให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้กักตัวอยู่ในที่ห่างไกลครอบครัวและผู้คนให้ครบ 14 วัน คาดว่าอีกประมาณ 7 วันจะไปตรวจเป็นรอบที่ 2 ในช่วงระยะเวลากักตัวนี้ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าไม่ติดเชื้อโควิด และจนมั่นใจแน่นอนแล้วจึงจะไปทำงานได้ตามปกติ
“สบายใจตรงที่คนขับคนนี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว หรือเดินเข้าไปในบริเวณตึกในส่วนทำเนียบรัฐบาล อยู่เฉพาะในส่วนตึก กพร. ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ทำงานอยู่ที่บ้านกันหมด สำนักงานจึงไม่ค่อยมีใครอยู่ และวันที่ตรวจพบเชื้อ รู้ล่วงหน้าเร็วจึงป้องกันได้ทัน ผมถามไทม์ไลน์จากผู้ที่ติดเชื้อแจ้งว่าน่าจะติดมาจากอพาร์ตเมนต์ที่เช่าอยู่ เพราะทราบว่ามีคนที่พักอาศัยที่อยู่ห้องใกล้กันติดเชื้อด้วย” นายเสกสกลกล่าว
นายเสกสกลกล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งเรื่องนี้ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทราบตั้งแต่วันที่รู้ผล และทางเลขาฯคงจะได้รายงานท่านนายกฯทราบแล้ว ส่วนตนนั้นอยู่ระหว่างการกักตัว ก็ต้องขออภัยทุกคนที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งที่พยายามรัดกุมกำชับทีมงานทุกคนให้ระมัดระวังอย่างเต็มที่แล้ว
“ยังมีความโชคดีบ้างที่คนขับรถหยุดงานไปเกือบเดือน เพิ่งจะกลับมาได้เพียงวันเดียว รีบเร่งให้ไปตรวจจนทราบผลเร็ว ก่อนที่จะเริ่มงานขับรถใหม่อีกครั้ง จึงไม่น่าจะแพร่กระจายไปติดต่อคนอื่นได้มาก และยังทันต่อการสั่งการควบคุมการแพร่เชื้อไปยังคนอื่นๆ ได้ทัน
“ทั้งนี้ ผู้ร่วมงานของผมทุกคน และบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้ให้ไปตรวจหาเชื้อให้ครบถ้วนทุกคนแล้ว ส่วนผมยังไม่มีการติดเชื้อตามที่ข่าวลือ เป็นการกักตัว และรอการตรวจหาเชื้อในรอบถัดไปเท่านั้น” นายเสกสกลกล่าว
