รหัสลับ ณ 25 มีนาคม 2563 ‘ไม้ตาย’ อนุทิน ชาญวีรกูล
พลันที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อ้างการประกาศและบังคับใช้พรก.การบริหารราชการในสถานฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 มาเป็นเกราะคุ้มกันภัย
ไม่ว่าสายตาจาก ‘สาธารณสุขจังหวัด’ ไม่ว่าสายตาจาก ‘หมอไม่ทน’ ก็มองไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพราะหากมองในแง่ ‘ความรับผิดชอบ’ มองในแง่ ‘อำนาจ’ ไม่ว่าของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ว่าของรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองล้วนถูก ‘ริบ’ ไปตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 แล้ว
เนื่องจากพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้อำนาจไปอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์โควิด หรือ ‘ศบค.’
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อสายตรงไปถึง ‘ปลัดกระทรวง’ ทุกกระทรวงได้ ไม่จำเป็นต้องผ่าน ‘รัฐมนตรี’
ความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสจึงมิได้อยู่ในมือของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล แม้ว่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ตาม
คำถามก็คือ แม้ว่าสภาพการณ์ของประเทศไทยจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 มาแล้ว กลุ่ม”หมอไม่ทน” หรือผู้ที่ร่วมลงชื่อจนจะมากกว่า 200,000 แล้วไม่รู้หรือ
ไม่น่าเชื่อว่า ‘หมอไม่ทน’ จะไม่รู้ ไม่น่าเชื่อว่า ผู้ที่ร่วมลงชื่อกว่า 200,000 คนจะไม่รู้
เนื่องจากบรรดารัฐมนตรีที่ต่อสายเชื่อมกับหัวหน้าศบค.อยู่ในขณะนี้ต้องยอมรับว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงโซ่ที่เปราะบางที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงบทบาทที่ออกมาระบุว่า ‘โควิดกระจอก’ ไม่ว่าจะเป็นการออกนำหน้าในเรื่องของ”วัคซีน”ในแบบ 360 องศา
ขณะเดียวกัน สะพานเชื่อมนี้ก็เริ่มเกิด ‘รอยร้าว’ ทั้งจากกรณี ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ และสายด่วน 1668 ซึ่งกำลังทวีความร้อนแรง
ปฏิบัติการ ‘หมอไม่ทน’ จึงเริ่มมาจากความร้อนแรงในกรณี ‘ไทยคู่ฟ้าคลับ’ ประสานกับการออกมาเปิดโปงในเรื่องสายด่วน 1668 จากทำเนียบรัฐบาล
เท่ากับเป็นการเปิดประตูนำไปสู่การถล่ม นายอนุทิน ชาญวีรกูล อย่างฉับพลันทันใด
การโต้กลับจึงต้องงัดประกาศ ณ 25 มีนาคม 2563 ออกมา