สื่อต่างประเทศหลายสำนัก รายงานข่าว นายกฯไทยโดนซะเอง ฝ่าฝืนไม่ใส่หน้ากากในห้องประชุม ทำโดนปรับเป็นเงินประมาณ 190 ดอลลาร์สหรัฐ ชี้นายกฯไทยคนนี้ ก็เพิ่งตกเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อเดือนก่อน จากกรณีฉีดสเปรย์ใส่นักข่าว
เมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้นำประชุมถกปัญหาการบริหารจัดการวัคซีน แต่เผลอไม่ใส่หน้ากากในที่ประชุม ที่ทุกคนใส่หน้ากากทั้งหมด และเป็นวันเดียวกับที่ กทม.ประกาศกฎเข้ม ต้องใส่หน้ากากทุกคน ตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ในรถที่มีคนมากกว่า 1 คน หากถูกจับได้จะมีโทษปรับสูงสุด 20,000 บาท โดยนายกฯได้โพสต์ข้อความขณะกำลังประชุม เป็นภาพที่ตนเองไม่ใส่หน้ากาก จนเกิดการตั้งคำถาม แม้จะลบรูปดังกล่าวแล้วแต่ก็ถูกวิจารณ์ จึงเรียกผู้ว่าฯกทม.- ผบช.น.ไปปรึกษา และทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 6,000 บาท ฐานฝ่าฝืนประกาศ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีดังกล่าว ได้รับความสนใจจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าว Reuters ก็นำเสนอข่าวดังกล่าว โดยพาดหัวว่า “นายกรัฐมนตรีของไทยถูกปรับเป็นเงินประมาณ 190 ดอลลาร์สหรัฐ จากการไม่สวมหน้ากากอนามัย” ก่อนชี้แจงรายละเอียด อ้างอิงจากคำกล่าวของ ผู้ว่าฯกทม.ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทั้งยังรายงานด้วยว่าภาพที่นายกฯไม่ใส่หน้ากากถูกเผยแพร่มาจากเฟซบุ๊กของนายกฯเอง ก่อนถูกลบในเวลาต่อมา
เช่นเดียวกับ Washingtonpost ที่รายงานว่า นายกฯไทยถูกปรับเป็นเงิน 190 ดอลลาร์ จากการไม่ใส่แมสก์ในที่ประชุมโควิด โดย washingtonpost ระบุด้วยว่า สถานการณ์โควิดในไทยขณะนี้ยังน่าเป็นห่วงมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงปกติ ช่วงวันเดียวกัน มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2,048 ราย ทั้งที่จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนการตาย ไม่ได้สูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น การเพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ จึงนำมาซื้อกฎอันเข้มงวดที่บังคับให้ใส่แมสก์ตลอดเวลา ทั้งนี้ นายกฯไทยในวัย 67 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนแอสต้าเซนเนก้าแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม
ขณะที่สำนักข่าว Channelnewsasia หรือ CNA ของสิงคโปร์ ก็รายงานข่าวดังกล่าวเช่นกัน พาดหัวว่า “นายกฯไทยถูกปรับเงินจากการไม่ใส่หน้ากากท่ามกลางการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของเชื่อโควิด-19” โดยความผิดเกิดจากการโพสต์เฟซบุ๊กของตัวเขาเองที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัยเพียงคนเดียว ท่ามกลางเหล่าที่ปรึกษาหลายคนนั่งล้อมรอบ CNA ระบุว่า การบังคับใส่หน้ากากเป็นกฎใหม่ถูกบังคับแล้วกว่า 49 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเมืองหลวงของประเทศคือกรุงเทพฯ โดยจะมีโทษปรับสูงสุดคือ 20,000 บาท ทั้งนี้สำนักข่าว CNA ยังได้เล่าไทม์ไลน์การระบาดโควิดระลอกใหม่ในไทย ว่าเกิดจากสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืน ไนท์คลับ
สำนักข่าว RT ของรัสเซีย ก็รายงานข่าวดังกล่าวเช่นกัน โดย ใช้พาดหัวว่า “ไม่มีข้อยกเว้น! นายกรัฐมนตรีโดนปรับ 190 ดอลลาร์ทันที หลังจากมีรูปปรากฏพบไม่สวมใส่หน้ากากในที่ประชุม” โดยสำนักข่าว RT ยังได้สถานการณ์โควิดในไทย และย้อนไปถึงเมื่อเดือนก่อนว่า นายกฯไทยเคยตกเป็นข่าวดังทั่วโลก หลังจากที่เขาฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่ผู้สื่อข่าว ขณะแถลงข่าว โดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำดังกล่าวเพื่อที่จะหลบเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังพบการรายงานข่าวดังกล่าวใน สำนักข่าวหลักในต่างประเทศ อย่าง The Independent ของอังกฤษ สำนักข่าว The Sydney Morning Herald ของออสเตรเลีย อีกด้วย
