เสวนาหน้าศาล ‘วิจักขณ์’ ถอดรหัสอดอาหาร ชี้ ร่างกายคือสิ่งสุดท้ายในการต่อสู้ พี่สาวเล่านาที ‘รุ้ง’ ปล่อยโฮ

เสวนาหน้าศาล ‘วิจักขณ์’ ถอดรหัสอดอาหาร ชี้ ร่างกายคือสิ่งสุดท้ายในการต่อสู้ พี่สาวเล่านาที ‘รุ้ง’ ปล่อยโฮ

เมื่อวันที่ 27 เมษายน สืบเนื่องกรณีนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่าย People Go Network อดอาหารหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เป็นวันที่ 2 เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวแก่ผู้ถูกจองจำจากการเคลิ่อนไหวทางการเมือง พร้อมติดแฮขแท็ก #อดพร้อมเพื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมโดยทำกิจกรรม ‘ยืนหยุดขัง’ 1 ชั่วโมง 12 นาที คู่ขนานกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับซึ่งจัดขึ้นหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน และจุดอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยในช่วงหนึ่งมีเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าเจรจาขอให้เก็บผ้าใบซึ่งกางบนทางเท้าออก ขณะที่ฝนใกล้ตก โดยอ้างถึง พ.ร.บ.ความสะอาด

ต่อมาในช่วงค่ำ เป็นการตั้งวงเสวนา ‘ทำไมอดอาหาร? ถอดความหมายที่ซ่อนอยู่’ โดยใช้พื้นที่ทางเดินเท้าหน้าศาลอาญา

Advertisement

นายเลิศศักดิ์ ได้กล่าวถึงการใช้ร่างกายในการต่อสู้ว่า ตนคิดว่าร่างกายคืออาวุธชีวภาพ และมันไม่ใช่อาวุธชิ้นสุดท้ายที่เรามีอยู่ การเคลื่อนไหวต่อสู้ ต้องใช้ทั้งร่างกายและจิตใจ

“ที่ผมเลือกที่จะร่วมอดอาหารในครั้งนี้ เพราะอยากร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา อยากรับรู้ เราไม่ได้อยู่กับเขาข้างในแต่อยากช่วยแบ่งรับความทุกข์จากคนข้างใน เราอยากใช้ร่างกายเราข้างนอก ที่มันทรมานให้คนอื่นได้เห็น ถ่ายทอด ไม่ว่าคนจะดูถูกเครื่องมือชนิดนี้อย่างไร ขอบอกเลยว่า อีก 100 ปี 1,000 ปี มันก็ไม่มีทางล้าสมัยไปได้

“การอดอาหารเราต้องคิดใคร่ครวญให้มาก สังคมไทยยังต้องเรียนรู้อีกมาก ต้องเคลื่อนไหวให้เกิดผล ตอนนี้ยังเป็นแค่การเริ่มต้น ยังไปไม่ถึงไหน ผมคิดว่าวิธีนี้ยังไปได้ต่ออีกไกล ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้อย่างไร” นายเลิศศักดิ์ กล่าว

Advertisement

นายวิจักขณ์ พานิช นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา กล่าวว่า มุมมองจากคนข้างนอก พอเห็นกลุ่มเพื่อนมาอดอาหารก็รู้สึกว่าเป็นความยากลำบาก ความหิวมันสั่นสะเทือนไปถึงจิตใจ ถ้าเรามีทางเลือกอื่นเราคงไม่ต้องใช้วิธีนี้ มันมาถึงจุดที่โดดบีบจนคนเหล่านี้เขาต้องเอาร่างกายตัวเองมาต่อสู้ จนทำให้คนภายนอกอย่างเรามีความรู้สึกร่วมด้วย

นายวิจักขณ์กล่าวว่า บางคนบอกว่าการใช้ร่างกายประท้วงมีนัยยะอย่างอื่นคือ ร่างกายเราเป็นเจ้าของ แม้ว่าเขาจะพรากสิทธิหรือเสรีภาพของเราไป แต่ร่างกายมันอยู่กับเราจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ อีกด้านหนึ่งก็คือเราสามารถที่จะใช้ร่างกายเป็นสิ่งสุดท้ายในการต่อสู้ เพื่อยืนหยัดเจตจำนงจนวันสุท้าย

“เราคิดว่าเพนกวินกับรุ้ง เขาคงคิดแบบนี้ เพราะเขาไม่มีเครื่องมืออะไรเเล้ว และสิ่งเเวดล้อมและเครื่องมือที่เขามีอยู่ตอนนี้มันบีบเขามาก เลยใช้ร่างกายของตัวเองบอกว่านี่มันไม่ถูกต้องนะไม่ว่ากับใครก็ตาม คนที่อยู่ข้างนอกบางคนอาจมองว่ามันยังไม่สัมผัสถึงตัวเรา แต่ถ้ามองให้ดีๆ เราทุกคนกำลังถูกรัฐบีบ บีบว่าคุณต้องเป็นเด็กดีนะ ต้องเป็นคนที่ดีนะ” นายวิจักขณ์กล่าว

นายวิจักขณ์กล่าวอีกว่า สมัยก่อนการดอาหารมีนัยยะสำคัญทางศาสนา แต่ส่วนตัวคิดว่าผู้ที่กดขี่เราไม่ว่าเขาจะรู็สึกหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เกิขึ้นก็คือ การสร้างความรู้สึกร่วมกับคนที่แคร์ กับเพื่อนที่เขาร่วมต่อสู้อยู่

“ถ้าเราไม่มีความเเข็งแกร่งในความรู้สึกร่วมกันในขบวน พลังและความรู้สึกที่เราต้องมีร่วม ถ้ามันไม่มากพอ เราจะร่วมกันต่อสู้ไปอีกไม่ได้ เพนกวินรุ้งเขาอยากส่งให้เราเข้าใจว่าเราอย่าหยุดสู้นะ” นายวิจักขณ์กล่าว

ด้าน ‘เมย์’ พี่สาวของรุ้ง ปนัสยา กล่าวว่า ทุกๆ ครั้งตนจะทำอะไรก็ตามเพื่อที่จะให้รุ้งรู้ว่าคนข้างนอกยังไม่ลืมเขา เมย์มีโอกาสได้เยี่ยมรุ้งผ่านวิดีโอ โดยให้รุ้งดูว่าคนข้างนอกเขาสู้พร้อมรุ้งอยู่

“พอรุ้งเห็นรุ้งรับรู้ จากคนที่เข้มเเข็งรุ้งปล่อยโฮออกมาเลย เขาตื้นตันใจ ที่คนข้างนอกยังไม่ลืมเขา มีช่วงหนึ่งที่เขียนจดหมายหาน้องว่าอยากให้เลิกอดอาหารแล้ว พอรุ้งได้รับข่าวสารเรื่องนี้เขาก็ส่งสารมาว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่เขาอยากจะบอกก็คืออยากให้คนยังจำได้ว่าการที่เขาต่อสู้แบบนี้เขาทำไปเพื่ออะไร เพราะเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาถึงต้องเลือกวิธีการแบบนี้ เป็นการใช้ร่างกายสื่อสารกับสังคม” เมย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image