มายด์-แรปเตอร์ ยื่นหนังสือ 3 สถานทูต ให้ติดตามคดีม.112 หวังให้เยี่ยมเพื่อนในคุกได้เห็นกับตา

“มายด์-แรปเตอร์” ตัวแทนกลุ่มราษฎร เข้ายื่นหนังสือ 3 สถานทูต มะกัน-เยอรมัน-สวิตให้ติดตามคดีม.112 หวังให้เยี่ยมเพื่อนในคุกได้เห็นกับตา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 เมษายน นายสิรภพ อัตโตหิ หรือแรปเตอร์, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือน้องมายด์ พร้อมด้วยตัวแทนจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยและเครือข่าย เดินทางเข้ายื่นหนังสือ 3 สถานทูต ประกอบด้วย สถานทูตสหรัฐอเมริกา, สถานทูตเยอรมัน และสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นจดหมายเรียกร้องให้ทั้ง3 สถานทูตติดตามสถานการณ์และเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 และยังไม่ได้รับการประกันตัว โดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ซึ่งได้อดอาหารและมีอาการป่วยเกรงว่าจะไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม

โดย นายสิรภพ กล่าวว่า ต้องการให้สถานทูตติดตามสถานการทางการเมืองและปัญหาของประเทศไทย ที่มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับสิทธิประกันตัวและออกมาต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากทั้ง 7 คน ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าเป็นผู้กระทำผิด จึงมองเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะ เพนกวินและรุ้ง ที่อดอาหารและมีอาการป่วยจึงอยากให้ตัวแทนสถานทูตได้เข้าเยี่ยมและได้เห็นด้วยสายตาตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น

“ในวันนี้เรายื่นจดหมายโดนมีเนื้อความว่า เราอยากให้สถานทูตฯได้ติดตามปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกคุมขังทางการเมืองอยู่ตอนนี้ โดนเนื้อความในจดหมายได้มีการแจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสภาพร่างกายของเพนกวินและรุ้ง ปนัสยา ที่วันนี้เพนกวิน อดอาหารเป็นวันที่ 45 และรุ้งครบ 1 เดือนเรียบร้อยแล้ว สภาพร่างกายในตอนนี้ก็ย่ำแย่ ในเนื้อความจดหมายนอกจากจะให้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำตอนนี้ ด้วยกฎหมายตาม ม.112 และกฎหมายทางการเมืองต่างๆ ยังต้องการให้ท่านทูตได้ไปเยี่ยมเพื่อนของเราที่อยู่ในเรือนจำเพื่อจะได้ทราบสถานการณ์ที่เป็นความจริงด้วยสายตาของตัวท่านเอง” นายสิรภพ กล่าว

Advertisement

ด้านน.ส.ภัสราวลี หรือมายด์ กล่าวว่า ในช่วงนี้รัฐบาลพยายามใช้สถานการณ์โควิด-19 ห้ามทำกิจกรรม ในการเรียกร้องการปล่อยตัว ยิ่งตอกย้ำให้นานาประเทศรู้ว่าเป็นการปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกที่สามารถทำได้ตามประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีใครสมควรโดยจับกุม เพราะเป็นการแสดงออกตามสิทธิและเสรีภาพ ส่วนที่เดินทางเข้ายื่นทั้ง3สถานทูตเนื่องจากทั้ง3ประเทศ เห็นแกสิทธิมนุษย์ชนเป็นหลักตอนนี้ไม่สามารถพึ่งพาใครได้ และรัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ถูกจับกุม จึงอยากขยายความจริงให้ทั่วโลกและให้ดังอยู่ตลอดเวลา

น.ส.ภัสราวลี กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเราเชื่อว่าทั้งสามประเทศนี้เห็นแก่เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ตอนนี้เราไม่สามารถพึ่งพาใครได้ และรัฐบาลไทยเองไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนของเราที่อยู่ในเรือนจำ และประชาชนที่ถูกจับกุมคดีการเมือง เพราะฉะนั้นเราอยากขยายความจริงตรงนี้ให้ทั่วโลกได้รับรู้ และอยากให้ตัวแทนแต่ละประเทศได้เห็นด้วยสายตาตัวเอง เบื้องต้นคาดหวังว่าทั้ง 3ประเทศจะช่วยจับตาดูอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับคดีทางการเมืองที่เกิดขึ้นในไทย ด้วยตอนนี้เองสถานการณ์โควิด-19 และหลายๆอย่าง ที่รัฐบาลไทยอยากทำให้เรื่องนี้มันดูเงียบๆไปด้วยก็เลยอยากจะยิ่งขยายเรื่องนี้ให้มันยังดังอยู่ตลอดเวลา เพราะเพื่อนเราที่อยู่ในเรือนจำยังไม่ได้รับความยุติธรรม

และส่วนตัวไม่ได้กังวลที่อาจจะถูกขังเช่นเดียวกับเพื่อนๆ ถ้าหากถูกขังก็อย่างที่เคยบอก ว่ามันก็เป็นสิ่งที่คอยตอกย้ำให้รู้ว่าในประเทศเรามันเหลือความยุติธรรมอยู่แค่ไหน และมันยิ่งตอกย้ำให้ต่างชาติและทั่วโลกได้รู้ด้วยว่า ณ ตอนนี้ รัฐบาลไทยได้ใช้และบังคับกฎหมายโดนการปิดกั้นเสรีภาพประชาชน ในการแสดงออกทางการเมือง ยังยืนยันว่าสิ่งที่ทุกคนออกมาพูด ออกมาแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ตามระบอบประชาธิปไตยไม่ควรมีใครถูกขัง เพราะพวกเขาคิดต่างจากรัฐเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดูแลความปลอดภัยทางตำรวจได้จัดกำลังมาคอยดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image