กมธ.ป.ป.ช.เตรียมเชิญ ‘ไผ่ สมยศ โตโต้’ หาข้อเท็จจริง ปมย้ายผู้ต้องขังการเมืองยามวิกาล

‘กมธ.ป.ป.ช.’ จ่อลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง 7 ผู้ต้องขังคดีการเมืองอีกครั้ง เผยฟังความเห็นจากกรมราชทัณฑ์-ก.ยธ.ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนพอจะยุติประเด็น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กรณีที่ผู้ต้องขังในคดีการเมืองทั้งหมด 7 คน โดย 3 คน เป็นผู้ต้องขังที่ย้ายมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี ในเวลา 18.00 น.วันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา และอีก 4 คน เป็นผู้ต้องขังที่ไปศาลในการพิจารณาคดีรวมถึงผู้ต้องขังอื่นๆ อีก 9 คน ที่ไปศาลด้วยกัน ได้เข้ามาอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และต่อมาปรากฏข่าวว่านายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ได้มีคำร้องต่อศาลว่าได้มีการพยายามจะแยกตัวผู้ต้องขังออกในยามวิกาล โดยวันนี้ กมธ.ป.ป.ช.ได้เชิญนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ปรึกษากรมราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของกรมราชทัณฑ์เข้ามาชี้แจงประกอบ ซึ่งข้อเท็จจริงที่สรุปเบื้องต้นคือในวันที่ 16 มีนาคม นายอานนท์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาด้วยเกรงว่าการเรียกยามวิกาลจะเป็นอันตราย

นายธีรัจชัยกล่าวต่อว่า โดยศาลอาญาพิจารณาอยู่ 2 หลักคือ หลักที่ 1 หลักคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ในช่วงยามวิกาลเป็นเวลาที่เรือนจำได้พักผ่อน ซึ่งสิทธิตามรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิพลเมืองที่ทุกคนแม้แต่ผู้ต้องขังก็สามารถที่จะได้รับการพักผ่อนตามสมควร และหลักที่ 2 เป็นเรื่องของความจำเป็นเร่งด่วน กรณีที่ต้องเร่งตรวจในยามวิกาลฉุกเฉิน ซึ่งศาลอาญายืนยันว่ายังไม่ใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนขนาดนั้น โดย กมธ.ป.ป.ช.ได้สอบถามนายอายุตม์ ซึ่งได้ยอมรับว่าไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการดังกล่าว และศาลได้วินิจฉัยตามเหตุผลนั้น อีกส่วนหนึ่งคือหลักการที่ผู้ต้องขังมีแนวคิดทางการเมืองแตกต่างจากเจ้าหน้าที่รัฐให้มาปฏิบัติการในยามวิกาลเช่นนั้นเป็นเหตุที่สมควรหรือไม่ ตนได้ให้ความเห็นกับนายอายุตม์ว่าให้ช่วยพิจารณาในส่วนนี้ด้วย

นายธีรัจชัยกล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องของหลักต่างๆ เช่น หลักความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเร่งตรวจสอบในส่วนนี้ต้องมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งที่ กมธ.ป.ป.ช.ได้พิจารณาในเบื้องต้น ความฉุกเฉินยังไม่ปรากฏ โดยนายอายุตม์บอกว่าการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ต้องตรวจบุคคลที่เพิ่งย้ายมาจากเรือนจำอื่น ผู้ที่ไปศาลหรือผู้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ และได้มีการสอบถามถึงเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ว่าได้มีการตรวจโควิด-19 หรือไม่ โดยในครั้งก่อนบอกว่ายังไม่มีการตรวจ ฉะนั้น จึงเกิดข้อสงสัยว่าเพราะอะไรถึงต้องเร่งตรวจผู้ต้องขังให้เสร็จภายในเวลา 02.00 น.ของวันนั้น

“วันนี้ได้มีรองปลัดกระทรวงยุติธรรมมาแทนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่ง กมธ.ป.ป.ช.ได้สอบสวนบางอย่างและได้ขอเอกสารเกี่ยวกับรายงานการสอบสวนที่ทางกระทรวงยุติธรรมสอบสวนเรื่องนี้ไปว่าเป็นอย่างไรมาประกอบกับกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้ฟังความเห็นจากกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมแล้วได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนพอสมควรที่จะยุติได้หลายประเด็น แต่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจะต้องฟังทั้งสองฝ่าย

Advertisement

ดังนั้น กมธ.ป.ป.ช.จึงมีมติที่จะไปตรวจสอบผู้ต้องขังทั้ง 7 คน โดยมีผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวมาแล้ว ได้แก่ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ และวันนี้หากศาลปล่อยตัวชั่วคราวเพิ่มก็จะเชิญมาสอบเพิ่มที่ กมธ. แต่บุคคลใดที่ยังไม่ได้สอบข้อเท็จจริงเพิ่มก็ได้ประสานไปกับนายอายุตม์ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าจะเข้าไปโดยอาจจะเป็นวันที่ 14 หรือวันที่ 17 พฤษภาคม เพื่อทำให้ความจริงกระจ่าง“ นายธีรัจชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image