09.00 INDEX คำเตือน เปิดประตูบ้าน “เมือง” คำเตือน ถึงรัฐบาล ถึงรัฐราชการ
คำเตือนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครที่ว่า “ท่ามกลางวิกฤตเช่นนี้คนไทยด้วยกันเองกลับ “เปิดประตูบ้าน” ลักลอบทำเรื่องผิดกฎ หมายเพราะหวังผลประโยชน์ตอบแทนเป็นตัวเงิน”
เป็นคำเตือนไม่เพียงแต่จาก”ความจริง”อันกำลังเกิดขึ้นในเดือน พฤษภาคม หากแต่ยังเป็นความจริงในเดือนธันวาคม 2563 อีกด้วย
คงจำกันได้ว่า การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-16 ระลอกที่ 2 ณ ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร อันกระจายไปยังทั่วประเทศมีรากฐานมาจากอะไร
ขณะเดียวกัน คำว่า “เปิดประตูบ้าน” จากปากของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังเป็นการทบทวนสำนวนอันมีลักษณะในทางประวัติจากการ “เปิดประตูเมือง” ครั้งเสียกรุงอย่างมีนัยสำคัญ
คำถามก็คือ ไม่ว่า “ตลาดกลางกุ้ง” ไม่ว่าตาม “โรงงาน” ในสมุทร สาครและหลายจังหวัด หลายพื้นที่ของประเทศไทยพื้นฐานคืออะไร
คำตอบก็คือ แรงงานต่างชาติ อันนำไปสู่คำถามที่ว่า “แรงงาน” จากต่างชาติไม่ว่าที่ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร หรือตามโรงงานที่ตรวจพบใหม่เข้ามาได้ด้วยปัจจัยอะไร
ที่เคยมี “แถลงการณ์” จากรัฐบาลตีพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษาระบุว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิดระลอกที่ 2 ระลอกที่ 3 มาจากการไม่ระมัด ระวังอย่างเพียงพอของประชาชนนั้น
หากสำรวจจากสภาพความเป็นจริงประสานเข้ากับแถลงจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครซึ่งมีประสบการณ์ตรงก็จะประจักษ์
ประจักษ์ว่า การแพร่ระบาดระลอก 1 คลัสเตอร์ใหญ่คือสนามมวยลุมพินี ระลอกที่ 2 มาจากการแสวงประโยชน์จากแรงงานต่างชาติของเจ้าหน้าที่ ระลอกที่ 3 มาจากไทยคู่ฟ้าคลับ
ยิ่งเมื่อมองลึกลงไปที่การดำรงอยู่ของบ่อนการพนัน การดำรงอยู่ของสถานบันเทิงอันมากด้วยอภิสิทธิ์เป็นอย่างสูง ก็สัมผัสได้ชัด
สัมผัสได้ใน “ผลประโยชน์” ภายใต้โครงสร้าง “รัฐราชการ”
ต้องยอมรับว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครไม่เพียงรู้ความจริงจากพื้นที่โดยตรง หากแต่ประการสำคัญเป็นอย่างมากตนเองยังตกเป็นเหยื่อของการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างเจ็บปวด
การเตือนถึงคนไทยที่ “เปิดประตูบ้าน เปิดประตูเมือง” เพียงเพื่อผลประโยชน์เฉพาะหน้าจึงเป็นคำเตือนอันทรงความหมาย
ย้อนอดีตไปยัง รากฐานแห่งการ”เสียกรุง”ในประวัติศาสตร์