“วิษณุ” ลั่น มีสิทธิเสนอกฎหมายลูกทุกคน บอก ไพบูลย์ เสนอใช้รถคันเดียวหาเสียงคงไม่พอ เป็นแค่โวหาร
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 2 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกมธ.ปฏิรูปด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้ข้อสรุปในการร่างกฎหมายลูกเกี่ยวกับพรรคการเมืองและการได้มาของ ส.ส.ว่า การจัดทำกฎหมายลูกเป็นอำนาของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะทำอย่างไรแล้วแต่กรธ. แต่วันนี้เขาใช้วิธีว่าเรื่องของใครให้คนนั้นร่างมาก่อนแล้วค่อยเอามาดูให้ ถ้ากรธ.เริ่มตั้งแต่ต้นจะทำไม่ถูก คนอื่นจะผสมโรงช่วยเสนอแนะถือว่าไม่เป็นไร แต่จะบอกว่ามีน้ำหนักแล้วต้องเอาตามคงไม่ได้ ไม่มีทั้งนั้นโมเดลญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ศรีลังกา มีอยู่โมเดลเดียวคือ โมเดลกรธ. เพราะท้ายที่สุดกรธ.จะเป็นคนเคาะว่ากฎหมายลูกจะออกมาเป็นอย่างไร
“คำเสนอแนะมันมีได้ แน่นอนวันหนึ่งรัฐบาลอาจมีข้อเสนอแนะไปบ้างก็ได้ ไม่แปลกอะไร แต่ไม่ได้พูดว่าจะทำ แค่พูดให้ฟัง แล้วหลักการบางเรื่องสมัยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2558 ดูเข้าท่าในส่วนนี้ เพราะดูแล้วไม่มีใครติในตอนนั้น อาจจะนำมาประกอบการพิจารณาได้”นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต สปช.เสนอโมเดลการหาเสียงแบบญี่ปุ่น นายวิษณุ กล่าวว่า อาจเป็นความคิดที่เท่ดี แต่ถ้าใช้หลักพอเพียงถือว่าดีทีสุด ที่นายไพบูลย์บอกใช้รถคันเดียวในการหาเสียงไม่พอเพียงแน่ ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นไปไม่ได้ ความเป็นจริงรูปแบบการหาเสียงของญี่ปุ่นไม่ถึงขนาดนั้น ถ้าพูดให้มันตื่นเต้นพูดได้ เรียกว่าเป็นโวหาร และคงไม่ไปวิจารณ์ แต่ดีแล้วที่ช่วยกันพูดเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความคิดขึ้นมาในสังคม ดีกว่าพูดอะไรที่มันขัดแย้ง
ส่วนที่มีข้อเสนอให้คสช. ลงพื้นที่ในช่วงเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสุจริตเที่ยงธรรมนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะดังกล่าวมุ่งหมายไปที่คสช. จึงตอบไม่ถูก ต้องให้คสช.ไปพิจารณาว่ามีความเหมาะสมจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้ขนาดไหนเพียงใด คสช.ต้องดูกฎหมายลูก ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งว่าจะต้องทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม คสช.อาจจะมีอำนาจ แต่ต้องดูความเหมาะสม เพราะถ้าถึงเวลาแล้วคสช.ลงไป โดยใช้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือน อาจทำให้เกิดการครหาได้ มีจุดล่อแหลมที่เสี่ยงอยู่เหมือนกันทั้งในแง่กฎหมายและความน่าเชื่อถือ
เมื่อถามว่า ก่อนมีการเลือกตั้งปี 2560 ระหว่างทางจะมีการผ่อนปรนให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เคยมีการพูดกันตรงๆ ถึงกำหนดเวลา แต่เคยมีการนำมาประกอบการพิจารณาว่าจังหวะใดถึงจะเหมาะสม ถ้าเพราะเปิดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นแปลว่าต้องเปิดทางให้หาเสียง มันจะทำให้เกิดแทรกซ้อนอะไรหรือไม่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่คสช.ต้องเอาไปคิด ลำพังจะเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไรไม่เป็นไร มันคือมาตรการประชาธิปไตยทั้งนั้น แต่จะเลือกตั้งโดยไม่หาเสียงได้อย่างไร ตอนนี้ไม่ได้เปิดโอกาส เพราะห้ามชุมนุมเกิน 5 คนอยู่ เรื่องนี้จึงต้องคิดหน่อย เลยยังไม่มีคำตอบตรงนี้ แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาและมีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าถ้าเลือกตั้งท้องถิ่นเดือนใดจะเกิดผลอะไร