‘สุพิศาล’ อดีตผู้การกองปราบ น้อมรับผิดคดี ‘อากง’ ขอใช้เวลาทั้งชีวิต ทำงานแก้ไขความผิดพลาด

‘สุพิศาล’ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม น้อมรับผิดคดี ‘อากง’ แจงหลังจากนี้จะขอใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อทำงานแก้ไขความผิดพลาด หลังถูกชาวทวีตจี้หาคำตอบ

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม กรณีมีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตข้อความว่า วันนี้มานั่งค้นข้อมูลเรื่องคดี ‘อากง’ แล้วพบว่า ทีมจับกุมอากงในวันนั้นมี พล.ต.ต สุพิศาล อยู่ในทีมจับกุมด้วย ซึ่งปัจจุบัน พล.ต.ต.สุพิศาล เป็น ส.ส.อยู่ในพรรคก้าวไกล อยากได้คำตอบจากพรรคก้าวไกลว่าในกรณีนี้ทางพรรคมีกระบวนการที่จะตั้งคำถามถึงเขา และให้คำตอบกับสังคมได้ไหม?

ต่อมา พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุถึงกรณีคดีนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ผู้ถูกกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ภายหลังมีส่วนร่วมในการจับกุมเมื่อปี 2553 ว่า จากกรณีที่มีการสอบถามกันเข้ามาถึงประเด็นที่ผม ในฐานะผู้บังคับการกองปราบปราม มีส่วนร่วมในการจับกุมอากง หรือคุณอำพล ตั้งนพกุล เมื่อปี 2553 ในข้อหาเกี่ยวกับมาตรา 112 นั้น ผมขอน้อมรับความผิดในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวในขณะที่มีหน้าที่ในภาครัฐ ปี 2554 และขออภัยต่อดวงวิญญาณอากง และครอบครัว รวมถึงขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ทุกคนที่อาจจะเกิดจากการทำงานในหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมาแล้วด้วย

พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์เปลี่ยนไป แต่การบังคับใช้กฎหมายยังคงถือปฏิบัติเช่นเดิมตลอดมา เวลาผ่าน ความเข้าใจของสังคมก็เปลี่ยนตามไปด้วย ผมตระหนักแล้วว่าการบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้ และมาตราอื่นๆ ตลอดจนกฎหมายอีกหลายฉบับ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มีแต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน รัฐบาล และสถาบันย่ำแย่ลงจากความไม่เป็นธรรมในหลายแง่มุม ด้วยน้ำมือของผู้ควบคุมและกำกับ ตลอดจนนโยบายเป็นสำคัญ

Advertisement

“งานการเมือง โดยเฉพาะ ส.ส.ต้องมีหน้าที่และอำนาจ ในการตราออกแก้กฎหมาย เพื่อให้เป็นธรรมจึงสำคัญยิ่ง และด้วยตระหนักว่าไม่สามารถแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้ แต่สามารถมุ่งมั่นลงมือทำงานเพื่อแก้ไขปัจจุบัน และกำหนดอนาคตของสังคมที่ดีกว่านี้ได้ ผมจึงตัดสินใจเข้าทำงานการเมืองอย่างเต็มตัว ในปี 2561 ร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ และต่อมาคือพรรคก้าวไกล เนื่องจากเห็นด้วยกับนโยบายด้านการปฏิรูปกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน

“ผมภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งใน ส.ส. และเป็นอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขปรับปรุงชุดกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน รวมถึงมาตรา 112 ด้วยและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)

“แม้สิ่งที่ผมทำจะไม่สามารถทดแทนความผิดพลาดได้ และคงไม่ทำให้ครอบครัวอากงให้อภัยผม แต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ดังนั้น หลังจากนี้จะขอใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อทำงานแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าวในอดีตเดิมที่อยู่ในวังวนของการครอบงำ ในอาณัติการที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งภายใต้รัฐราชการ อันเป็นการจำกัดสิทธิพลเมืองบางอย่างออกไปด้วยตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น เราทุกคนควรจะมีสิทธิอันพึงมีที่เท่ากัน” พล.ต.ต สุพิศาลกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image