‘ธีรัจชัย’ ชี้ ตรวจสอบจริยธรรม ‘ธรรมนัส’ โยง ‘บิ๊กตู่’ รู้เห็น-ยังคงแต่งตั้งคนต้องคำพิพากษาจำคุกดำรงตำแหน่ง ชวน กดดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบเอกสารในการตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช. กล่าวว่าการจะยื่นร้องเรียน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียติดคุกคดียาเสพติดว่าอาจไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรม เพราะความผิดเกิดก่อนเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้เกิดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ว่า ก็มีส่วนที่อาจจะเป็นได้ดังนั้น แต่กรณี ร.อ.ธรรมนัสตั้งแต่ก่อนเป็น ส.ส.ในเดือนมีนาคม 2562 และก่อนเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ในปลายปี 2562 ได้มีการยื่นให้รับรองคุณสมบัติตัวเองว่ามีคุณสมบัติไม่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ และในประเด็นนี้จึงเป็นที่ต้องตั้งคำถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ปกปิดการต้องคำพิพากษาโทษจำคุกที่ประเทศออสเตรเลียหรือไม่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าต้องคำพิพากษาที่ศาลประเทศออสเตรเลียแล้ว การปกปิดถือว่าเป็นการซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 บุคคลจะเป็นรัฐมนตรีได้ต้องเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์สุจริต
นายธีรัจชัยกล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัสถูกออกจากราชการถึง 2 ครั้ง ในราชการทหารทิ้งราชการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และยังมีคดีอื่นอีกหลายคดี ถึงแม้จะมีการยกฟ้องแต่ก็ถูกต้องขังในประเทศไทยระหว่างดำเนินคดี รวมถึงข้อสงสัยในเรื่องของวุฒิการศึกษา เรื่องการเสียภาษี เรื่องการดำเนินธุรกิจว่าได้มีการถือหุ้นในบริษัท แต่ไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ทั้งนี้ ถือว่า ร.อ.ธรรมนัส ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่
นายธีรัจชัยกล่าวว่า คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) ได้เสนอรายงานผลสรุปคุณสมบัติของ ร.อ.ธรรมนัส ส่งให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.), ศาลรัฐธรรมนูญ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปแล้ว แต่ในส่วนของ ป.ป.ช.จะสรุปและส่งอีกครั้งหนึ่ง
นายธีรัจชัยกล่าวอีกว่า การละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงคือกรณี ร.อ.ธรรมนัสดำเนินการยื่นชี้แจงคุณสมบัติของตัวเองในวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ต่อ กมธ.ป.ป.ช. สภา โดยข้อมูลนั้นไม่ตรงกับความจริงในหลายเรื่อง รวมถึงช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ ร.อ.ธรรมนัสได้ตอบคำอภิปรายของตน ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัสเป็นคนที่ปกปิดความจริงหรือแจ้งความเท็จหรือไม่ ในส่วนนี้จะเป็นการละเมิดจริยธรรมหรือไม่ เพราะถือว่าอยู่ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง
นายธีรัจชัยกล่าวว่า ขณะนี้ทีมงานของพรรคก้าวไกลและ กมธ.ป.ป.ช. สภา กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด เมื่อได้ข้อยุติทั้งหมดแล้วจะดำเนินการ ไม่ว่าจะยื่นต่อ ป.ป.ช.หรือสภา เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมและเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ ร.อ.ธรรมนัส เพียงคนเดียว แต่จะรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าได้รู้หรือไม่เกี่ยวกับที่ ร.อ.ธรรมนัสต้องคำพิพากษาให้จำคุกที่ประเทศออสเตรเลีย และถ้ารู้แล้ว ก็นำไปสู่คำถามที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความผิดหรือไม่ ในส่วนจริยธรรมของตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ที่แต่งตั้งคนที่มีปัญหาเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศ ฉะนั้น จึงต้องรับผิดด้วย
“อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูจากเอกสารที่ ร.อ.ธรรมนัสยื่นเอกสารต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่ได้รับรองคุณสมบัติตัวเอง ซึ่งทาง กมธ.ก็เคยขอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่ไม่ให้มา ระบุบว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล แต่ทางเราก็จะทำเรื่องขอไปใหม่
“รวมถึงการยื่นขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของ ร.อ.ธรรมนัสด้วย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผม พรรคก้าวไกล และ กมธ.ป.ป.ช.กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ เชื่อว่าช่วงเวลาอันใกล้นี้จะได้ข้อยุติทั้งหมด” นายธีรัจชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ได้กำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัสไว้หรือไม่ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า ในขณะนี้ทีมงานของตนหลายคนได้ส่งข้อมูลเรื่องข้อหมายมาให้ตนแล้ว และจะมีการประชุมอนุ กมธ.ร่วมกันอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม โดยข้อมูลที่ทีมงานส่งมาให้ตนก็มีประเด็นที่น่าสนใจค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องไปข้อมูลที่รับรองจากสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งด้านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพื่อนำมาพิจารณาด้วย ซึ่งหากสำนักนายกฯให้เลยก็จะจบไว แต่หากบอกว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ต้องไปขอที่คณะกรรมการข้อมูลต่างๆ และไม่ให้ความร่วมมือเช่นนี้ก็อาจจะช้าหน่อย
“เราพยายามสู้ และให้สื่อมวลชนช่วยกันกดดัน อย่าให้ปิดบังเลย เพราะ ร.อ.ธรรมนัสก็เป็นคนสาธารณะ อยากให้ตรวจสอบด้วยความโปร่งใส ซึ่งเรามีหน้าที่ตรวจสอบ ก็ตรวจสอบอย่างเต็มกำลังที่ เราสามารถตรวจสอบได้ แต่คนที่วินิจฉัยต่างๆ ก็คือศาล หากผ่านรัฐธรรมนูญก็ผ่านศาลรัฐธรรมนูญ แต่หากยื่นผ่าน ป.ป.ช.ก็ต้องไปที่ศาลอาญา หากไปที่สภาก็เป็นสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณา ซึ่งก็เป็นช่องทางที่กำหนดไว้
“ส่วนตัวถือเป็นการศึกษาตรวจสอบและดึงประเด็นต่างๆ เหล่านี้ไปเสนอเพื่อวางมาตรฐานให้เป็นมาตรฐานสากล ให้ดูแล้วสามารถอธิบายได้ทุกแง่มุมที่คนทั่วไปดูและเห็นว่ามีความยุติธรรมจริงๆ สมควรจะเป็นเช่นนี้จริงๆ ไม่ใช่ทำให้มีข้อกังขา และทำให้ประเทศมีหลักประกันของคนที่จะเข้ามาดูอำนาจทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นนิติบัญญัติ หรือบริหาร เป็นคนที่สะอาด บริสุทธิ์ มีความน่าเชื่อถือจริงๆ ซึ่งในขณะนี้อำนาจอยู่ที่เรา แล้วสักวันเชื่อว่าอำนาจจะอยู่กับประชาชน” นายธีรัจชัยกล่าว
เมื่อถามว่า เอกสารที่บอกว่าที่จะต้องขอเกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัสนั้น เป็นหลักฐานที่จะสามารถเอาผิด ร.อ.ธรรมนัสได้เลยหรือไม่ นายธีรัจชัยกล่าวว่า จริงๆ แล้วเรามีรายงานของ กมธ.ป.ป.ช. ซึ่งได้ส่งให้นายชวน และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ และให้ กกต.ส่งให้สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปเรียบร้อยแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย ข้อมูลด้านในมีหลักฐานและเอกสารลับโดยที่ ร.อ.ธรรมนัสปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยืนยันพฤติกรรมที่ ร.อ.ธรรมนัสทำเมื่อก่อน ซึ่งหลักฐานและข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายโดยละเอียดอยู่ในรายงานของ กมธ.
นายธีรัจชัยกล่าวว่า เชื่อว่าเมื่อมีการเปิดเผยหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด จะทำให้ประชาชนรู้ทั้งหมดในเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ในขณะนี้ตามกฏหมายยังไม่สามารถเปิดเผยหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ ทั้งนี้ เราในฐานะนักการเมืองที่มาจากประชาชนก็พยายามต่อสู้ แม้ว่าจะมีหนทางน้อยกว่าฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐอยู่
