สนธิรัตน์แนะ ‘บิ๊กตู่’ ใช้โมเดล ‘ไบเดน’ คลังชง ครม.วันนี้เคาะแจกเพิ่ม 2 พันบ.

สนธิรัตน์แนะ ‘บิ๊กตู่’ ใช้โมเดล ‘ไบเดน’ คลังชง ครม.วันนี้เคาะแจกเพิ่ม 2 พันบ.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้โพสต์ข้อเขียนแนะนำนโยบายช่วยเหลือร้านอาหารของสหรัฐมาปรับใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า

“ในภาวะวิกฤตโควิดเช่นนี้นอกจากการติดเชื้อและการป้องกัน ปากท้องของพี่น้องที่ถูกผลกระทบน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง วันก่อนผมได้มีโอกาสอ่านแผนฟื้นฟูประเทศหลังโควิด-19 ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ค่อนข้างน่าสนใจในหลายประเด็น แต่ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจคงเป็นแผนช่วยเหลือร้านอาหารของเขา รู้ไหมในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ตำแหน่งงานในร้านอาหารของอเมริกาหายไปถึง 2.3 ล้านตำแหน่งเลย อเมริกามีแผนสำหรับช่วยร้านอาหารโดยเฉพาะเลย เพราะมองว่าร้านอาหารเหล่านี้คือสายใยสำคัญที่เชื่อมโยงผู้คนในสังคมอเมริกา และเป็นแหล่งจ้างงานสำคัญของประเทศ ตอนนี้เขามีการตั้งกองทุนฟื้นชีวิตธุรกิจเพื่อให้ความช่วยเหลือเหล่าร้านอาหาร ไม่ใช่เฉพาะร้านใหญ่ๆ แต่รวมพวกบาร์ เบเกอรี่ แผงขายอาหาร และรถขายอาหารด้วย เงินช่วยเหลือนี้ผู้ประกอบการจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ได้ เพื่อให้ร้านกลับมาเปิดได้เป็นปกติอีกครั้ง การขอรับความช่วยเหลือผ่านกองทุนก็ทำได้ง่ายๆ เพียงส่งเอกสารสมัครเข้ามาผ่านทางเว็บไซต์ของทางรัฐบาล และจะมีหน่วยงานประเมินและประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป ส่วนตัวผมเห็นว่านโยบายนี้ค่อนข้างน่าสนใจและเหมาะมากเลย ในการนำมาปรับใช้กับบ้านเราที่ร้านอาหารและภาคบริการเป็นหัวใจสำคัญมากๆ มีอยู่ทั่วประเทศจะเป็นการช่วยฟื้นธุรกิจสามารถดูแลพนักงานและเกิดรายได้กับผู้ค้าขายกับร้านอาหารเป็นจำนวนมาก เศรษฐกิจของประเทศเราหลังวิกฤตโควิด-19 จำเป็นต้องฟื้นชีวิตธุรกิจที่หยุดนิ่ง ให้เดินต่อโดยเร็วครับ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น 1 วัน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็น 1 ใน 4 กุมารเคยร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อครั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เสนอแนวทางรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการเร่งด่วนคือ การให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ในการแก้ไขการแพร่เชื้อโควิด-19

Advertisement

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 พฤษภาคม กระทรวงการคลังจะนำโครงการเราชนะ และ ม33เรารักกัน เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติ เพื่อเตรียมพร้อมดำเนินการตามแผนที่วางไว้ หลังจากได้กำหนดรายละเอียดหลายด้านพร้อมแล้ว ส่วนมาตรการในการช่วยเหลือหรือเยียวยาอื่นๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคธุรกิจ ผ่านมาตรการทางการเงิน อาทิ การพักหนี้ แหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) หรือการช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉินให้กับผู้ประกอบการรายย่อยนั้น ได้รับการอนุมัติจาก ครม.แล้ว คือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน พร้อมปล่อยสินเชื่อวงเงิน 10,000 บาทต่อคน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.35% ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกันการกู้ ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรกเพื่อช่วยเหลือ ใช้งบประมาณรวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยส่วนนี้คาดว่าผู้ประกอบการรายย่อยจะสามารถได้รับประโยชน์อยู่แล้ว จึงยังไม่มีมาตรการออกมาเพิ่มเติม

น.ส.กุลยากล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของโครงการเราชนะที่จะเข้า ครม.คือ การขยายวงเงินช่วยเหลือให้ประชาชนสัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะเริ่มโอนเงินรอบใหม่ให้ในวันที่ 20 พฤษภาคม และวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ส่วนผู้ที่ใช้ผ่านบัตรประชาชนจะได้รับในวันที่ 21 พฤษภาคม และ 28 พฤษภาคม 2564 ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายสิ้นสุดได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เท่านั้น โดยผู้ที่ได้รับสิทธิเราชนะ และ ม33เรารักกัน อยู่แล้ว จะได้รับสิทธิเงินเพิ่ม 2,000 บาท ทุกคน แบบไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ และไม่ต้องกดยืนยัน เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องจึงได้รับสิทธิอยู่แล้ว เน้นย้ำว่าผู้ต้องการรับความช่วยเหลือจากโครงการมาตรการเยียวยาโควิดระยะที่ 2 ต้องเลือกเข้าร่วมโครงการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 โครงการนี้เท่านั้น ส่วนโครงการ ม33เรารักกัน เป็นการขยายเพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนในมาตรา 33 สัปดาห์ละ 1,000 บาท เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มโอนเงินรอบใหม่ในวันที่ 24 พฤษภาคม และ 31 พฤษภาคม 2564 โดยมีระยะเวลาการใช้จ่ายสิ้นสุดถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image