เสียงเตือน สนธิรัตน์ ‘4 กุมาร’ เสียงแห่งความห่วงหา อาทร
ไม่ว่าจะเป็นการออกโรงของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ให้สนใจกระบวนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ โจไบเดน ไม่ว่าจะเป็นการออกโรง ของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ให้สนใจเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
จำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างยิ่งยวด จำเป็นต้องล้างหูน้อมรับฟังอย่างมีโยโสมนสิการ
ไม่เพียงเพราะ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เคยเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงเพราะ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เคยเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
หากที่สำคัญอย่างยิ่งยวด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เคยรับผิดชอบงานของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงาน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็เคยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ความหมายจึงหมายความว่าเขาเคยร่วมอยู่ใน ‘เรือแป๊ะ’ กระ ทั่งพัฒนามาเป็น ‘เรือเหล็ก’ ข้อเสนอจึงเปี่ยมด้วยความห่วงหาอาทร
เกรงว่า ‘เรือเหล็ก’ จะถูก ‘สนิม’ จากสถานการณ์โควิดบ่อนเบียนกระทั่งกลายเป็น ‘เรือรั่ว’ และจมลง สร้างความเดือดร้อนให้กับ ประชาชนในที่สุด
เสียงจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เมื่อประสานเข้ากับเสียงของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล จึงไม่เพียงแต่เป็นเสียงของมิตร หากแต่ยังเป็นมิตรที่รู้สถานการณ์อย่างลึกซึ้ง
รู้ว่ามาตรการ ‘แจกเงิน’ อย่างที่กระทำอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์เดือนเมษายน 2563 นับวันจะยิ่งมีความหมายน้อย
อาจสามารถเยียวยาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งเหมือนกับเป็นยาแก้ปวดแต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างยั่งยืน หว่านไปก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว
กรรมวิธีของ โจไบเดน ต่างหากที่เป็นการแก้ปัญหาอย่างยาวนานมากกว่า จำเป็นต้องมองปัญหาอย่างเข้าใจและรู้เท่าทัน
เสียงจาก ‘มิตรเก่า’ จึงเป็นเสียงที่รู้ใน ‘จุดอ่อน’ ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างถ่องแท้ ครบถ้วน
คำถามด้วยความห่วงใยนี้เริ่มต้นจากปมอันเป็นปัญหาอย่างแท้จริง นั่นก็คือ ต้องทำให้รอดพ้นจากปัญหาของโควิดอย่างแท้จริง ต้องจัดหาวัคซีนและกระจายการฉีดอย่างมีประสิทธิภาพ
หากไม่สามารถจัดการกับ ‘โควิด’ หากไม่สามารถลงมือปฏิบัติกับการฉีด ‘วัคซีน’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ยากจะสร้างความเชื่อมั่น
ความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงสำคัญ
