‘ฟ้า’ เปิดใจหน้าศาล ปมแม่เครียดจนเส้นเลือดสมองแตก ยันไม่ได้ปราศรัย แค่แวะรอเพื่อน

‘ฟ้า’ ปาฐกถาหน้าศาล เปิดใจปมแม่เครียดจนเส้นเลือดสมองแตก ถาม ต้องแลกด้วยแบบนี้? ยัน ไม่ได้ปราศรัย แค่แวะรอเพื่อน

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรอฟังคำไต่สวนประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยที่ 1 นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ จำเลยที่ 17 และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง จำเลยที่ 6 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 จากการชุมนุมคณะราษฎร 2563 ปักหมุดสนามหลวง ผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยเวลา 14.04 น. นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ผู้ต้องหามาตรา 112 ซึ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.) มาร่วมพูดคุย และรอลุ้นผลประกันตัว 3 แกนนำ

นายพรหมศรกล่าวว่า ตอนแรกไปไหว้พระพิฆเนศแถวห้วยขวาง เห็นคนเยอะ นึกว่ามีอะไร ก็เลยแวะลงมาดู ดิฉันไม่ได้มาชุมนุม ดิฉันไม่ได้มาชุมนุมทุกกรณี ทุกท่านเป็นพยานร่วมกันว่าวันนี้ดิฉันไม่ได้มาชุมนุม ผ่านพอดี เลยแวะลงมานิดหน่อย มาเที่ยว และแวะมารอเพื่อนกลับบ้าน

จากนั้นนายพรหมศรหันหน้าไปทางอาคารศาลอาญา พร้อมกล่าวว่า

Advertisement

“เพื่อน คุกไม่ใช่ที่กักขังเสรีภาพ และประชาธิปไตย กลับบ้านได้แล้วนะ เป็นตะเกียงส่องสว่างให้กับประเทศที่มืดมนและขาดหลักนิติรัฐนิติธรรมได้แล้ว”

โดยประชาชนส่งเสียงเฮเป็นระยะ

Advertisement

นายพรหมศรกล่าวต่อว่า วันนี้จะไม่พูดอะไรมาก แต่ก็จะพูด เขาบอกดิฉันแค่ว่าห้ามพาดพิงถึงสถาบันฯ ดิฉันก็จะไม่พาดพิง เราอยู่ในประเทศที่เด็กทุกคนต้องเชื่อว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย ประชาธิปไตยคือประชาชนมีอำนาจสูงสุดในการจัดการและบริหารประเทศ ประเทศที่ดีต้องอุดมไปด้วยหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม

จากกรณีตัวอย่างของดิฉัน ที่หายไปจากสังคมโซเชียลและโลกมนุษย์ 53 วัน สิ่งที่ฉันขอบคุณอย่างเดียวกับการกระทำในครั้งนี้ของกระบวนการในประเทศไทย คือช่วยทำให้ดิฉันจะเป็นนางแบบได้ กับน้ำหนัก 55 กิโลกรัม แต่สิ่งที่ดิฉันไม่พอใจ คือประเทศที่ไม่มีหลักใดเลย ย้อนกลับไป 53 วันที่แล้ว ดิฉันรถคว่ำหัวแตก พักร่างกายได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ดิฉันโดน ป. วิอาญา ถูกกักขังโดยอิสรภาพไป 53 วันได้ ความจริงดิฉันไม่ควรพูดเรื่องนี้ ณ ที่ตรงนี้ แต่ก็ต้องพูด เพราะดิฉันออกมาได้ด้วยความรักของบรรดาแม่ๆ รวมถึงแม่ของดิฉันเองด้วย

“ครอบครัวของดิฉันรวมถึงแม่ของฉัน และแม่ของหลายคนที่ลูกกำลังรอจริยธรรม มโนสำนึก หิริโอตตัปปะ ของผู้อยู่ด้านใน ให้การปล่อยตัวลูกเขากลับบ้าน คุณรู้ไหมว่า แม่ของดิฉันรอฟังการประกันของดิฉัน จนรอไม่ไหว เกิดสภาวะเครียด เส้นเลือดฝอยในสมองแตก เมื่อวานออกจากเรือนจำด้วยสภาวะดีใจที่ได้อิสรภาพ และเสียใจที่เลือดฝอยในสมองของคุณแม่แตก ความที่เราต้องการซึ่งประเทศที่มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ เราต้องแลกกับอะไรแบบนี้หรือ

การที่พวกท่านพรากลูก พรากแม่ พรากพี่ พรากน้อง พรากความรักจากเพื่อน พรากการเรียนหนังสือออกจากชีวิตคนคนหนึ่ง คือสิ่งที่พวกท่านพอใจเช่นนั้นหรือ สิ่งใดที่พวกท่านพึงมีได้ในชีวิต มาจากภาษีของดิฉันและประชาชนอีกกว่า 70 ล้านคนในชาติทั้งหมดทั้งสิ้น ดิฉัน ฉันไม่ได้ปราศรัยแค่ปาฐกถาเฉยๆ อยู่ดีๆ ก็ได้แอ๊กเซสซารีแสนเก๋ติดตัว” นายพรหมศรกล่าว

นายพรหมศรกล่าวต่อว่า ตอนนี้แม่อยู่โรงพยาบาล ถามว่าทำไมแม่ไม่ออกไปเทกแอ๊กชั่นบ้าง สิ่งที่แม่ดิฉันพูด แม้ฟังไม่รู้เรื่อง จากอาการที่ท่านปากเบี้ยวเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ท่านพูดใจความประมาณว่า “แม่กลัวไม่ได้เจอหน้าฟ้า”

“เป็นคำพูดที่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดออกมาจากใจ ซึ่งดิฉันกับแม่ พูดน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ทะเลาะกันมากกว่า ดิฉันมั่นใจว่าลูกหลายคนก็ทะเลาะกับพ่อแม่มากกว่าพูดดี คุยกัน 10 นาทีจะเริ่มมีปากเสียงเล็กน้อยถึงปานกลางในหลายๆ เรื่อง เราจะคุยกันเรื่องเดียวคือ ‘แม่เย็บผ้าให้หน่อย’“

“ปล่อยให้เขาได้กลับบ้าน ให้เขากลับไปเรียนหนังสือ ให้เขาได้กลับไปหาเพื่อน ให้เขาออกมาสู้ตามกระบวนการยุติธรรม มากกว่านั้นท่านต้องประกอบด้วยมโนสำนึก” นายพรหมศรกล่าว

จากนั้นเวลา 14.15 น. ตัวแทนกลุ่ม Unme of Arnachy ทำการบรรเลงดนตรี “ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ” โดยประชาชนร่วมกันส่งเสียงร้อง จากนั้นอ่านบทกวีเพื่อให้กำลังใจทุกคน รวมถึงเพื่อนที่อยู่ข้างใน ความว่า

“สีขาวในมือเธอ ท่ามกลางโลกหม่นเหม่อของเธอและฉัน
ผ่านกี่ร้อน กี่หนาว ร้าวคืนวัน เรายังยืนยัน ด้วยหัวใจ

หัวใจสีขาวในอกเธอ ถึงแม้ใครมองว่าฝันเพ้อ เธออย่าหวั่นไหว
ชีวิตเรายังเดินทางไกล อย่าให้ความเชื่อมั่นถูกคั่นกลาง

จงอย่าให้ความเชื่อมั่นถูกคั่นกลาง

ปีกสีขาวในกายเธอ จงโบกสะบัดเพื่อพบเจอซึ่งฟ้ากว้าง
ถึงแม้น้ำตาซ่านกระเซ็นบนเส้นทาง โลกไม่ได้อ้างว้างอย่างเธอคิด
ตราบใดที่เธอและฉันยังฝันใฝ่ ตราบใดที่หัวใจยังลิขิต
ตราบยังมีบทกวีแห่งชีวิต โลกนั้นไม่มีสิทธิกักขังเธอ

เธอไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง โลกยังเปี่ยมหวังอยู่เสมอ
ถึงแม้ดวงตาเราพร่าเบลอ เราคงเจอเส้นชัยในสักวัน

ไม่ต้องห่วงเราจะยังสู้ต่อ ไม่ต้องห่วงเราจะยังสู้ต่อ
ท้องฟ้ากว้างพอถักทอฝัน

ความงดงามแห่งความเศร้า เล่าคืนวัน
โทษทัณฑ์ใดๆ ไม่ใช่ของเธอ

เธอไม่ต้องกลัว เธอไม่ผิด ชีวิตของคนช่างหม่นเหม่อ
การกระทำขังได้แค่กายเธอ แต่หัวใจของเธอจะโบยบิน

โปรดฝากความฝันไว้ที่ฉัน เราจะรอคืนวันอันแบกสิ้น
ดูสิผีเสื้อยังโบยบิน ก้อนดินจะบินไปสู่ดาว”

จากนั้นร้องเพลงฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ ท่อนสุดท้ายอีก 1 รอบ ต่อด้วยเพลง “บทเพลงของสามัญชน” และ “อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้” ของวงสามัญชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image