พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ประกาศให้เงิน 1 แสน หากเสียชีวิตจากวัคซีน หวังสร้างความเชื่อมั่นฉีดวัคซีน
วันที่ 11 พฤษภาคม นายจักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ชาว อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตผู้บริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในฐานะคนรุ่นใหม่หรืออายุน้อยร้อยล้าน หลานชายนายสำเภา ประจวบเหมาะ อดีต สส.ประจวบฯ 9 สมัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ให้ 1 แสน ถ้าเสียชีวิตจากวัคซีน เนื่องด้วยตอนนี้ประชาชนคนไทย ทั้งประเทศต้องเผชิญหน้ารับมือกับโรคระบาด โควิด-19 จนถึงวันนี้ปริมาณผู้ติดเชื้อยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นจำนวนผู้เสียชีวิตก็ยังมีอัตราส่วนที่สูง จนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก
ฉะนั้นการฉีดวัคซีนจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆที่ประชาชนชาวไทยทุกคนจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดแต่อุปสรรคในปัจจุบันนี้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศขาดความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนเพราะที่ผ่านมา ผลข้างเคียงที่เกิดจากการฉีดวัคซีนเช่น อาการอัมพฤกษ์ อาการมือชา หรือแม้กระทั่งบางรายถึงกับเสียชีวิต จึงทำให้ประชาชนเกิดความกลัวขาดความมั่นใจในการจะเข้าทำการฉีดวัคซีน
ในการรับวัคซีนรอบแรกนี้ (มิ.ย. – ก.ค. 64) มีวัคซีนของ AstraZeneca ที่จัดหาไว้ทั้งสิ้น 16 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนจัดหาวัคซีนให้
ตอนนี้รัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน หมอพร้อม ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.- 7 มิ.ย 64 ในกลุ่มสำหรับรอบนี้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังนี้ ซึ่งจะครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มแรกของกลุ่มประชากรเป้าหมายในรอบนี้ที่มีอยู่ประมาณ 16 ล้านคนจะเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน เป็นต้นไป
ทั้งนี้นายสิรวิทย์ ช่วงเสน หัวหน้าพรรค และ ดร.จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ เลขาธิการพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่จึงอยากจะเสริมความมั่นใจ ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศโดยการช่วยชดเชยสำหรับรายที่ฉีดวัคซีนไปแล้วทำให้เสียชีวิตโดยทางพรรคบริจาคเงินจำนวนรายละ 100,000 บาทต่อราย เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการฉีดวัคซีนที่จะเข้ามาถึงไทย ในวันที่ 7 มิ.ย 64 อีกทั้งทางพรรคยังได้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยจำนวน 50,000 ชิ้นทำการแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยังขาดแคลนอีกด้วย
ทั้งนี้ทางพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ตระหนักดีว่าการที่ประชาชนทุกคนได้รับวัคซีน จะทำให้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในระลอกที่สามนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยลง ทั้งยังส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศให้ฟื้นตัวให้เร็วที่สุด ให้ประชาชนสามารถกลับมาทำมาค้าขายได้ตามปกติ วันนี้ปัญหาปากท้องเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ปัญหาโรคระบาดโควิด – 19 เลย เพราะฉะนั้นพรรคอยากให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกัน เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนและฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ไปให้ได้โดยเร็ว
