“บิ๊กตู่” ไม่แฮปปี้ ฮึ่มประธานภาคเอกชนบางคน คุยกันเข้าใจ แต่ไปพูดกับสื่ออีกแบบ

“บิ๊กตู่”ไม่แฮปปี้ หลังมีประธานภาคเอกชนบางคนคุยกันเข้าใจ แต่กลับไปพูดกับสื่ออีกแบบ ยืนยันรัฐบาลไม่เคยโทษประชาชน ชี้”บุรีรัมย์”ออกกฎกลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนเจอโทษแรงถึงเข้าคุกอาจเป็นการเตือน มองมุ่งหมายไปทำร้ายปชช.ไม่ได้ ร้านอาหารเตรียมเฮ ศบค.ผ่อนคลายเปิดให้คนนั่งกินในร้านได้ 1 ใน 4

เมื่อวันที่ 14 พ.ค.  ที่เดอะมอลล์บางกะปิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด-19 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการเดินสายของนายกฯ ร่วมกับรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ดูในพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเราจำเป็นต้องปรับรูปแบบและพัฒนาการด้านต่างๆ ให้มากขึ้น ที่สำคัญต้องฟังช่องทางภาครัฐ หากคิดคนและทางไปไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลจำป็นบริหารและจัดสรรตามพื้นที่การแพร่ระบาดและต้องฟังหมอ สิ่งสำคัญที่สุด วันนี้เราต้องติดตามตรวจสอบคัดกรองเฝ้าระวังทั้งหมดทุกตารางนิ้วของประเทศไทยที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ และเข้าสู่การรักษาหรือกักตัว ซึ่งวันนี้ได้จัดตั้งรพ.บุษราคัม เพิ่มอีก เพื่อรับผู้ป่วยกลุ่มระดับสีเหลืองมีอาการร้ายแรงปานกลาง ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลหลักของรัฐและเอกชนให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มเตียงว่างสำหรับคนที่มีอาการร้ายแรง

“วันนี้เป็นความร่วมมือดียิ่งจากภาคธุรกิจเอกชน อย่างไรก็ตามในขณะที่ผมบริหารงานเรื่องโควิดได้หารือกับทุกภาคส่วนและการทำงานวันนี้ที่ภาคเอกชนมาร่วมด้วยจำนวนมาก ทั้งการจัดสถานที่อะไรต่างๆ ไม่ใช่เพราะกดดันแล้วผมถึงทำขอให้เข้าใจตรงนี้ เพราะที่ผ่านมาได้มีการหารือกันมาตลอดมาประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่การเริ่มจัดหาวัคซีน จัดหาวัคซีนทางเลือกและการนำเข้าวัคซีน สิ่งเหล่านี้ได้อธิบายไปหมดแล้ว พร้อมเห็นชอบและตกลงด้วยกัน จึงไม่อยากให้ออกมาพูดในสื่อข้างนอก ทำให้เกิดความเสียหายกับภาครัฐโดยรวม วันนี้เราต้องไปด้วยกันภาครัฐ ภาคเอกชนและธุรกิจ โดยต้องเข้าใจว่าภาครัฐจำเป็นต้องทำตามกฎระเบียบและกฎหมายทุกตัว ย้ำว่าเราไม่ปิดกั้นวัคซีนและจัดหามาเพิ่มเรื่อยๆ “พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนโมเดอร์นา และตนกำลัง เจรจาระดับผู้นำกับต่างประเทศอยู่ ว่าจะมีอะไรสามารถนำเข้ามาได้เพิ่มอีก เราต้องเตรียมเผื่ออะไหล่ไว้ เรามีวัคซีนเกณฑ์มาตรฐานอยู่แล้วตามแผนเดิมทั้งแอสตราเซเนกาและซิโนแวคที่เข้ามาเป็นระยะๆ ทำให้เรามีวัคซีนเพิ่มมาอีก 3.5 ล้านโดส ซึ่งบางจังหวัดอาจจะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่สถานการณ์การแพร่ระบาด ขณะเดียวกันจะพิจารณาจำนวนวัคซีนที่เรามี 63 ล้านโดส โดยให้แนวทางไปแล้วว่าจะมีการปรับกลุ่มให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องให้บริการสาธารณะหรือที่ต้องพบปะคนจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่อยู่ในระยะต่อไปที่ต้องเติมวัคซีนให้ ตนทราบดีว่าทุกคนก็อยากฉีดกันหมดแต่ถ้าแบบนั้นเราบริหารไม่ได้จริงๆ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า วัคซีนที่นำเข้ามาไม่ได้ช้าจนเกินไป อีกทั้งตรวจสอบคัดกรองมาโดยตลอดและกรุณาไปติดตามแต่ละประเทศด้วยว่ามีการนำเข้าอย่างไรและทำได้เมื่อไหร่ ซึ่งทราบข่าวว่าวันนี้ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเรามีการแพร่ระบาดจนปิดเมืองกันอีกแล้ว แต่เรายังไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าไม่ช่วยกัน ไม่เว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากาก ไม่ระมัดระวังตัวเองและไปพื้นที่อโคจรแล้วจะทำอย่างไรได้ จึงต้องช่วยกัน ตนไม่โทษประชาชน แต่โทษรัฐบาลอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะต้องไปด้วยกัน

Advertisement

“ขอบคุณในความเข้าใจและขอบคุณในหลายๆเรื่อง ภาคเอกชนเมื่อร่วมมือกับรัฐบาลก็ต้องพูดไปในทางเดียวกัน ผมบังคับท่านไม่ได้ เพราะท่านก็คุยอยู่กับผมทุกอาทิตย์นั่นแหละ เรื่องวัคซีนผมก็อธิบายไป ให้หมออธิบายก็เข้าใจ แต่ออกมาพูดอีกอย่างผมไม่แฮปปี้เท่าไหร่ ผมจำเป็นต้องพูดตรงนี้จะได้เข้าใจร่วมกัน ผมไม่ได้ขัดแย้งกับใครดีซะอีกได้มาช่วยกัน แต่ทั้งหมดต้องอยู่ในกรอบกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะดูแลภาพรวม นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจมันจะเพิ่มมากเพิ่มน้อยขึ้นอยู่กับวัคซีนที่มา วันนี้ดูทุกอัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีกลุ่มรับจ้างสาธารณะ รถเมล์ มอเตอร์ไซค์ Grab และคนที่ต้องเดินทางไป-มา ที่จะต้องหาวัคซีนตรงนี้เพิ่มให้อีก รวมถึงครู นักธุรกิจในประเทศและนักธุรกิจต่างประเทศที่เข้ามาอยู่ในประเทศ แรงงานในระบบ 16 ล้านคน ดังนั้นต้องบริหารจัดการทีละขั้นตอนตรงไหนฉีดมากฉีดน้อย ตรงไหนพื้นที่ฐานการผลิตของประเทศไทยและส่งออกถ้าล่มสลายไปสินค้าส่งออกเจ๊งหมด จึงต้องคิดแบบนี้ฝากความเข้าใจด้วยแล้วกัน พูดแล้วยังเหนื่อยแต่สบายใจที่เจอพวกเราทุกคน

เมื่อถามถึง กรณีที่จ.บุรีรัมย์ ออกคำสั่งใหม่ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อหรืออาจจะรับเชื้อไปฉีดวัคซีน หากฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่ผู้ว่าฯ กำหนด แต่ไม่ได้มุ่งหมายต้องไปทำร้ายประชาชน ซึ่งอาจจะเป็นการเตือนไว้ เหมือนกับค่าปรับก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและบางจังหวัดก็ต้องมีการห้ามบ้าง แต่ประกาศแล้วอาจไม่ปรับถึง 20,000 อาจเป็น 2 บาทก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจังหวัดพิจารณาภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ ถ้าไม่เตือนกันจะทำหรือไม่ ทำไมต้องให้บังคับใช้กฎหมาย แต่ตัวเองต้องปลอดภัยครอบครัวต้องปลอดภัย ซึ่งตนไม่โทษ เดี๋ยวสื่อจะหาว่าตนโทษประชาชนอีก จำไว้นะ ถ้าในสื่อเห็นว่านายกฯ โทษประชาชนอีกนะมีเรื่อง

Advertisement

“ต้องร้องขอประธานต่างๆ ไว้ด้วยแล้วกันพูดอะไรก็ขอให้มันตรงกับที่เราคุยไว้บ้างแล้วกัน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพิจารณามาตรการผ่อนคลายของ ศบค. ที่ให้ร้านขายอาหารสามารถเปิดให้ผู้บริโภคสามารถนั่งรับประทานได้บ้าง ว่า รับเรื่องมาหลายวันแล้วและได้ให้แนวทาง ศบค.ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวันนี้มีมาตรการออกมาแล้วให้มีการผ่อนผันให้เปิดได้ แต่ต้องมีแนวทางปฏิบัติให้ถูกต้อง ซึ่งในระยะแรกได้เสนอมาให้คนเข้ามากินภายในร้านได้ 25% หรือ 1 ใน 4 ก่อน แล้วหลังจากนี้จะทำอย่างไรให้ลูกจ้างมีการฉีดวัคซีน ดังนั้นแผนต้องปรับตลอดเวลาหากปล่อยไปเรื่อยๆ อะไรก็ได้ก็จะเป็นปัญหา เพราะคนมีจำนวนมากกว่า 66 ล้าน จะให้ทุกคนพอใจคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ขอให้ช่วยกันแล้วกัน ไม่จำเป็นต้องรักหรือชอบตน แต่จะดูแลทุกคนอยู่แล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า วันนี้ต้องชี้แจงให้ได้ว่าโรงพยาบาลสนามมีที่ไหนรับได้เท่าไหร่ ต้องสรุปให้ชัดเจนให้ได้ บางทีก็บอกว่าเปิดที่โน้นที่นี่แต่ไปแล้วไม่พร้อม ดังนั้นต้องระบุให้ชัดเจนและประกาศให้ทราบล่วงหน้า วันนี้สั่งการไปแล้วทำอย่างไร รวมถึงเรื่องการขนย้ายวัคซีนให้เร็วขึ้นจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาค มีเครื่องไม้อุปกรณ์เครื่องย้ายได้เร็วขึ้น เพราะวันนี้หลายจังหวัดยังรออยู่วัคซีนยังกระจายไปไม่หมด จึงต้องให้ศูนย์กระจายวัคซีนภูมิภาคลดภาระส่วนกลาง ซึ่งปัญหาทุกปัญหาแก้ได้หมดด้วยความเข้าใจที่ตรงกันเราจะสู้ไปด้วยกัน ก่อนกล่าวว่า “วัคซีนไอเลิฟยู” และชูสัญลักษณ์ 2 นิ้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image