09.00 INDEX : การฟื้น “ศูนย์ข่าวปลอม” ขึ้นมา ในท่ามกลาง ข่าวปล่อย ข่าวลือ

สภาวะความเครียดอันเกิดขึ้นในสังคมกระทั่งนักร้องเพลงเพื่อชีวิตที่เคยมีบทบาทเป็นอย่างสูงคนหนึ่งประกาศยุติบทบาททางการเมืองของตนเป็นสภาวะที่สามารถเข้าใจได้

ยิ่งหากกล่าวสำหรับคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ยิ่งเป็นสิ่งที่จะต้องเห็นใจเป็นอย่างสูง

กล่าวสำหรับรองนายกรัฐมนตรีอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ไปนั่งฟังรายงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคมยิ่งต้องให้กำลังใจอย่างเป็นพิเศษ

นั่นก็คือ นับแต่มีการจัดตั้ง”ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม”ขึ้นมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 กระทั่งถึงเดือนพฤษภาคม 2563 มีข้อมูล 116,419,184 ข้อความ พบข้อความเข้าเกณฑ์ 30,183 ข้อความ

Advertisement

ปรากฏว่าเป็นข่าวปลอม 2,705 เรื่อง เป็นข่าวบิดเบือน 416 เรื่อง ข้อมูลที่เข้าสู่ระบบการตรวจสอบส่วนใหญ่มาจากไลน์

มากกว่า 300,000 ข้อความ เฟซบุ๊ค 13,000 ข้อความ เว็บไซต์กว่า 4,000 ข้อความ ทวิตเตอร์กว่า 2,000 ข้อความ

ในเมื่อมีข้อความที่เข้าสู่ระบบตรวจสอบของไลน์มากกว่า 300,000 ข้อความ อย่าได้แปลกใจไปเลยที่จะมีเสียงบ่นจากนายกรัฐมนตรีใน ที่ประชุมครม.ในเรื่อง”เสียงนินทา”

Advertisement

พร้อมกับคำปรารภจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทำนองที่ว่า “โดนพูดลับหลัง” โดยเฉพาะในสถานการณ์”โควิด”

ระหว่างถ้อยปรารภของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า”โดนพูดลับหลัง” กับการบ่นในห้วงแห่งการประชุมครม.ของนายกรัฐมนตรีที่ว่ามีรัฐมนตรีบางคน”นินทา”

จึงแทบมิได้เป็นเรื่องที่แตกต่างกันแม้แต่น้อย จึงเท่ากับเป็นการ ยอมรับโดยอ้อมๆว่า สภาวะในปัจจุบันเสียงอันดังจากมา”โซเชียลมีเดีย”กำลังขยายตัวเติบใหญ่อย่างรวดเร็ว

เพราะหากไม่ขยายตัวเติบใหญ่กระทั่งกลายเป็นเรื่องน่ากลัวคงไม่มีการฟื้นบรรยากาศ”ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม”ขึ้นมาเขย่าขวด

ความเป็นจริงที่เกิดปรากฏการณ์จาก#ย้ายประเทศกันเถอะที่ระดมสมาชิก”เรือนล้าน”เข้ามาอย่างรวดเร็ว สะท้อนสภาวะกดดันในทางความคิดที่ดำรงอยู่ในสังคม

ขณะเดียวกัน อารมณ์อย่างนี้จึงก่อให้เกิดความซับซ้อนเป็นอย่างสูงในการแยกแยะข่าวจริง ข่าวลือ ข่าวปลอม ออกจากกัน

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image