เรียงคนมาเป็นข่าว-ภาพข่าวสังคม
⦁…เดือน พ.ค. จากอดีตสู่ปัจจุบันถือว่าเป็นห้วงเวลาของ “เหตุการณ์ทางการเมือง” ถ้าเฉพาะปีนี้ ยิ่งไม่ธรรมดา เพราะ “พ.ค.2564” กลายเป็นเดือนแห่ง “นิวไฮ” ครั้งแล้วครั้งเล่าของ “โควิด-19” เฉพาะ กทม. เต็มไปด้วย “คลัสเตอร์” โผล่พรึบ 20-30 แห่ง ราวดอกเห็ดหน้าฝน ที่น่าเศร้าอย่างยิ่ง “เรือนจำ” กลายเป็นแหล่งติดเชื้อ ด้วยตัวเลขวันละหลายพันคน
⦁…ก็ต้องหาทางกอบกู้กันต่อไป ต้นเหตุก็เห็นๆ กันอยู่ถึง “ความแออัด” น่าจะลองถกกันดูว่า ทำยังไง ให้ “ราชทัณฑ์-เรือนจำ” ไม่ต้องรับภาระมากมายขนาดนี้ ประเทศเราบังคับใช้กฎหมายกันถูกทางหรือไม่ เรื่องเล็กเรื่องใหญ่แยกได้หรือไม่?? ทำไมต้องไปลงเอยกันอย่างแออัดใน “คุก”
⦁…เหตุการณ์ในอดีตที่ยังลืมกันไม่ลง แม้ว่าหลายคนอยากให้ลืม คือ “พฤษภาทมิฬ” 17-19 พ.ค.2535 รัฐบาล รสช.และคณะทหารลุยปราบปรามประชาชน ที่ออกมาคัดค้านการ “สืบทอดอำนาจ” ภายหลังรัฐประหาร 23 ก.พ.2534 บาดเจ็บล้มตายเป็น “บันทึกชุ่มเลือด” อีกหน้าหนึ่งของการเมืองไทย
⦁…“พฤษภาทมิฬ” มีต้นตอมาจาก “รัฐประหาร 2534” ขับไล่ “รัฐบาลน้าชาติ” นำโดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ด้วยข้อหา “บุฟเฟต์คาบิเน็ต” ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็เป็นแค่ “วาทกรรม” เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการ “ยึดอำนาจ” ของฝ่ายทหาร สุดท้าย ผู้สูญเสียก็คือ “ประชาชน” ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากรัฐบาล ที่มี “นายกฯ” โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของ “การเมืองไทย”
⦁…ปี 2534 เป็นห้วงเวลาที่ “กองทัพ” เข้มแข็ง ขณะที่ “ฝ่ายการเมือง” ก็โดดเด่น ประชันรัศมีกันภายใต้ “ประชาธิปไตย” ที่เกิดขึ้นหลัง “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ล้างมือไป หัวหน้าพรรคชาติไทยที่ได้ ส.ส.มากที่สุด “พล.อ.ชาติชาย” ประกาศนโยบาย “แปรสนามรบเป็นตลาดการค้า” ซึ่งหมายถึง “อินโดจีน” ที่ไฟสงครามเพิ่งดับลง เรียกเสียงฮือฮาจากประชาชน
⦁…เมื่อ “การเมือง” เข้มแข็ง แถมผู้นำการเมืองมาจาก “ทหารเก่า” ย่อมก่อให้เกิดอาการ “หลอน” กับอีกฝ่าย สุดท้าย “จบ” ด้วยรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ จัดเลือกตั้ง แต่ตอนตั้งรัฐบาล แทนที่จะให้ ส.ส.ว่ากันไปเองตามคำสัตย์สัญญา ดันเกิดรายการ “เสียสัตย์เพื่อชาติ” ผลคือประชาชนเสียเลือดเนื้อ ก่อนจะยุติลงได้ด้วย “พระบารมี” ของ “ในหลวงรัชกาลที่ 9”
⦁…อีก “ฝันร้าย” ที่เป็นจริงของหลายคนคือ เหตุการณ์ “การสลายม็อบ 100 ศพ” ที่มีไฮไลต์การสังหารประชาชนหลายจุดใน กทม. รวมแยกราชประสงค์-วัดปทุมวนาราม อันเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์เรียกร้องให้ “รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ยุบสภา เรื่องนี้ยังเป็น “บาดแผลเรื้อรัง” ของสังคมไทย เพราะยังเอาผิดกับใครไม่ได้เลย
⦁…มีการประกาศ “เขตใช้กระสุนจริง” นำเอา “พลแม่นปืน” หรือ “สไนเปอร์” มาประจำตามอาคารสูง มีเหยื่อกระสุนหลายราย รวมถึง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” คลิปบันทึกเหตุการณ์สไนเปอร์ยิงผู้ชุมนุม ยังปรากฏอยู่จนบัดนี้ ระหว่างเกิดเหตุ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งส่งนักข่าว ช่างภาพมาทำข่าว และบันทึกภาพเหตุการณ์ไปจำนวนมาก จนถูกกระสุนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน กลายเป็น “หลักฐานสำคัญ” ที่ไม่ต้องพูดให้เจ็บคอ ก็รู้ว่าใครทำอะไรไว้
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่