59 วัน ‘ยืนหยุดขัง’ หน้าศาลฎีกา ส่งใจ ‘เพื่อนที่เหลือ’ ในเรือนจำ ไม่ได้สิทธิประกัน แถมเสี่ยงโควิด

59 วัน ‘ยืนหยุดขัง’ หน้าศาลฎีกา ส่งใจ ‘เพื่อนที่เหลือ’ ในเรือนจำ ไม่ได้สิทธิประกัน แถมเสี่ยงโควิด

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 21 พฤษภาคม กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง” เป็นวันที่ 59 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งระบุว่าจะจัดขึ้นทุกวันในเวลาฃจนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ โดยยืนถือป้ายภาพและข้อความ อาทิ “หยุดจับคนเห็นต่างเข้าคุก หยุดจับผู้บริสุทธิ์ยัดข้อหา” “คืนสิทธิ์ประกันตัว ตราชูต้องชูเพื่อมวลชน”“คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา” เพื่อเรียกร้องให้คืนสิทธิการประกันตัวแก่นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเหลืออีกอย่างน้อย 4 ราย ได้แก่ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, นายอานนท์ นำภา, นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน และนายแซม สาแมท

สำหรับวันนี้ มีผู้ร่วมกิจกรรมในบริเวณที่กำหนด จำนวน 20 คนโดยยืนบริเวณลานหน้าป้ายศาลฎีกา ซึ่งกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ หรือ พ่อน้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 53 และนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน ร่วมกันทำพิธีเชิงสัญลักษณ์ และเรียกว่า ‘ลานอากง’ เพื่อรำลึกถึงนายอำพล ตั้งนพกุล หรืออากง ผู้ต้องโทษคดี 112 ในวาระครบรอบการเสียชีวิต 9 ปี

กระทั่งเวลา 18.42 น. คบกำหนด 1 ชั่วโมง 12 นาที นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า มีข่าวล่าสุด ว่าทนายได้ขอยื่นประกันตัว อานนท์ นำภา กับไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก พร้อมกันและศาลมีคำสั่งให้มาฟังคำไต่สวน ขอประกันตัวชั่วคราว พร้อมกับ ชูเกียรติ แสงวงค์ ในวันอังคารที่ 1 มิถุนายน ซึ่งหลายคนที่มาร่วม ยืน หยุด ขัง คงไปไม่ได้ เพราะต้องไปรายงานตัวที่ สน.ชนะสงคราม ที่โดนแจ้งข้อหารวม 12 คน และมีหมายเดี่ยวด้วย ที่มาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จึงจะไปให้กำลังใจที่ศาลอาญาไม่ได้

Advertisement

“แต่ถ้ามีข่าวดีแล้ว เราจะมารวมกันเพื่อประกาศว่าเราจะเอาอย่างไรต่อไป ในวันอังคารที่ 1 มิถุนายน วันนี้ก็ร่วมเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนเราที่ยังอยู่ในเรือนจำ และสุ่มเสี่ยงกับการติดเชื้อโควิด-19 ตอนนี้ในเรือนจำก็ติดเกือบ 20,000 คน ทั่วประเทศแล้ว บางคนอย่าง ชูเกียรติ หายแล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเป็นใหม่หรือเปล่า อย่างไรก็เป็นกำลังใจให้ทุกคน” นายพันธ์ศักดิ์กล่าว

จากนั้น ผู้ร่วมกิจกรรม พร้อมใจหันหน้าเข้าหาศาลฎีกา ก่อนชู 3 นิ้ว แล้วเปล่งเสียง “ปล่อยเพื่อนเรา” 3 ครั้ง ก่อนยุติกิจกรรมด้วยความสงบ

นอกจากนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่ง ยืนเรียงแถวริมรั้วศาลฎีกา ฝั่งมุ่งหน้าประติมากรรมพระแม่ธรณีบีบมวยผม อีกด้วย

Advertisement

ขณะที่เวลา 17.30 น. บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประชาชน 6 ราย ทำกิจกรรม ยืน หยุด ขัง คู่ขนาน ตามยุทธศาสตร์ดาวกระจาย พร้อมสวมเสื้อสกรีข้อความ “ปล่อยเพื่อนเรา” ของกลุ่ม “พลเมืองโต้กลับ” โดยส่วนใหญ่อยู่ในวัยกลางคน และผู้สูงอายุ ยืนเรียงแถวตอนเรียงหนึ่ง หันหน้าเข้าสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกราย กางร่มที่มีการห้อยแผ่นกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีข้อความ ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ บริเวณขอบร่มโดยรอบ นอกจากนี้ บางรายใช้ร่มพ่นภาพใบหน้าบุคคลต่างๆ ที่ยังอยู่ในเรือนจำ อาทิ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายชูเกียรติ แสงวงค์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังนำภาพผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิการประกันตัวมาแขวนระหว่างเสาบนทางเดินเท้า พร้อมข้อความว่า ‘การนิ่งเฉยปล่อยให้รัฐบาลขังเยาวชนที่ต่อสู้เพื่ออนาคตของพวกเราคือความเลวร้ายที่สุดของเราทุกคน’

เมื่อครบ 1 ชั่วโมง 12 นาที ผู้ทำกิจกรรมหันหลังให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชู 3 นิ้ว ตะโกน ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ 3 ครั้งก่อนยุติกิจกรรม ในเวลาประมาณ 18.42 นาที

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.25 น. ศาลอาญามีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยตัวแกนนำทั้งสอง ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น. โดยมีนายมุขเมธิน กลั่นนุรักษ์ เป็นผู้ลงนามคำสั่ง

ทั้งนี้ นักกิจกรรม จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดเผยว่า วันที่ 22 พฤษภาคมจะมีการจัดกิจกรรม “7 ปีที่ไม่มีประชาธิปไตย” เนื่องในวาระครบรอบ 7 ปี รัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 19.00 น. ภายหลังจบกิจกรรมยืน หยุด ขัง หน้าศาลฎีกา อีกด้วย

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image