ครป.จี้กองทัพรับผิดชอบ ปม ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ โยงไอโอ สถาปนาความดีชี้นำสังคม สุดท้ายฉ้อฉล

ครป.จี้กองทัพรับผิดชอบ ปม ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ โยงไอโอ สถาปนาความดีชี้นำสังคม สุดท้ายฉ้อฉล

วันที่ 22 พฤษภาคม คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จัดเวทีเสวนาไทยไม่ทนออนไลน์ เนื่องในวาระครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร ภายใต้หัวข้อ “7 ปีรัฐประหาร เหลียวหลังแลหน้าประเทศไทย”

ในตอนหนึ่ง นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. กล่าวว่า ตนมีความคาดหวังว่าหลัง 7 ปีการรัฐประหารผ่านไป เราจะมีอนาคตที่สมบูรณ์ขึ้น มีความหวังท่ามกลางกระแสของคนหนุ่มสาวที่จะสร้างชาติบ้านเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองไม่ต่างจากประเทศเกาหลี และที่อื่นๆ เพียงแต่ขจัดอุปสรรคขวากหนาม รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวก ที่รวบอำนาจมาตลอด 7 ปีออกจากการเมืองไทยไปอยู่บ้านพักผ่อนเลี้ยงหลาน ชาติบ้านเมืองเราก็จะเจริญก้าวหน้าทุกวันนี้กระแสประชาธิปไตยทั่วโลกมี 2 กระแสใหญ่คือ เสรีนิยมประชาธิปไตย และสังคมประชาธิปไตย

ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ หากไม่มีรัฐประหาร 2549 รัฐประหาร 2557 ทั้งนี้ 7ปีผ่านไปของการรัฐประหาร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นำพาประเทศไปสู่วิกฤตที่ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง เมื่อ 7 ปีที่แล้วกำเนิดระบอบ 3ป. ในประเทศไทย คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ควบคุมรัฐ , พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ควบคุมพรรคในปัจจุบัน , พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ควบคุมมวลชนผ่านกระทรวงมหาดไทย

Advertisement

“วันนี้ผมคิดว่าธาตุแท้ที่พวกเขาปกครองเมืองไทย รวบอำนาจมา 7 ปี เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า เขาใช้ระบอบ 4ป. โดยมี ป.ที่ 4 ที่มีตัวแทน ที่ชัดเจนในปัจจุบัน คือนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก สถาปนารูปแบบของความดี ผ่านโครงการต่างๆ ชี้นำสังคม แต่แท้จริงแล้วมีการทุจริตฉ้อฉลทางโครงสร้าง ใช้อำนาจโดยมิชอบ วันนี้มีคำสั่งให้จับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก กองทัพก็ต้องรับผิดชอบด้วย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเอาทหารมาทำปฏิบัติการไอโออยู่ในเซิร์ฟเวอร์ที่มีนายประสิทธิ์เกี่ยวข้องหรือเป็นเจ้าของ

พลเอกประยุทธ์ ประกาศวาระแห่งชาติเรื่องทุจริตคอรัปชั่น เป็นเพียงข้ออ้างวาทกรรมที่เกิดขึ้น เพราะในรอบ 7 ปีหลายคนพูดได้ชัดเจนว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย การรัฐประหารเมื่อ 7 ปีที่แล้วสร้างระบบรัฐทหาร เป็นระบบที่เน้นราชการเป็นศูนย์กลางของอำนาจ ขัดขวางการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกรูปแบบ ที่มีการวางแผนมาอย่างยาวนาน

Advertisement

จริงๆบทเรียนจากเหตุการณ์พฤษภา 35 เราต้องการปฏิรูปการเมืองไม่ต่างจากเกาหลีใต้และก็สร้างบ้านแปลงเมืองมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย มีความเป็นธรรม แม้กระทั่งการเคลื่อนย้ายกองกำลังทหารหลังเหตุการณ์พฤษภา 35 ก็มีการสรุปบทเรียนว่า ต่อไปนี้จะต้องใช้มติครม.เท่านั้นในการที่นำทหารออกมาปราบปรามประชาชนได้จะออกมาเองเหมือนในอดีตไม่ได้

แต่รัฐประหาร 2549 แล้วก็กลับเข้าลูปของความล้มเหลวกับดักของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตย เข้าสู่วงจรอุบาทว์ที่ทหารการเมือง ชักนำทหารอาชีพเข้าสู่วิถีที่ไม่น่าจะเป็นในปัจจุบันนี้ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์มีการโฆษณาชวนเชื่อมากมายแบ่งแยกแล้วปกครอง สังคมแตกแยก

ถ้าท่านจริงใจในการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นผมขอเรียกร้องให้ทุกท่าน ลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่างๆทั้งหมด หยุดสร้างระบบเสนาพาณิชย์” นายเมธากล่าว

นายเมธา กล่าวด้วยว่า ตนอยากเรียกร้องในวาระครบรอบ 7 ปี หลังการเปลี่ยนแปลงระบอบพลเอกประยุทธ์ จะต้องมีการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายเหล่านี้ทั้งหมด อาทิ กฎอัยการศึก, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, กฎหมายรักษาความมั่นคงภายใน ดังนั้น 7 ปีแล้ว ถึงเวลาที่พี่น้องประชาชนจะออกมาร่วมกัน ปฏิบัติการ Social sanction ติดริบบิ้นขาวไม่เอาพลเอกประยุทธ์ พร้อมติดแฮชแท็กไทยไม่ทน หรือ แฮชแท็ก 7 ปีแล้วนะพลเอกประยุทธ์ ผ่านมา 7 ปี ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image