⦁…กลัด “กระดุม” เม็ดแรกผิด ไม่สั่ง “วัคซีนให้พอกับการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่” เพราะ “ถือดี” ในความคิดตัวเองว่า “คุมการระบาดได้ทัน” แค่ “คิดโดยไม่ลงมือควบคุม” พลิกเป็นเรื่อง “เพ้อเจ้อ” ได้ง่ายดาย เมื่อผลประโยชน์ใน “วงเจ้าหน้าที่” ปล่อยให้ “สถานบันเทิงกลางกรุง” เป็นคลัสเตอร์ สู่การระบาดลามประเทศ ขณะระบบสาธารณสุขเตรียมไว้ไม่พอรับมือ โกลาหลจึงเกิดขึ้น “ผู้คนเจ็บป่วย-ล้มตาย” ในระดับ “เสี่ยงที่จะเอาไม่อยู่” ถึงวันนี้ ประกาศจำนวนวัคซีน และแผนการฉีดกันยกใหญ่ แต่ยิ่งตาลีตาเหลือกยิ่งมั่ว
⦁…มีไม่พอ ควรจะบอกให้ชัดๆ ว่า “ไม่พอ” กลับเรียกให้ประชาชนมาฉีด เหมือน “ทำงานกันคนละประเทศ” เพราะประกาศโรงพยาบาลหลายแห่งออกมาในทางตรงกันข้าม “ขอเลื่อนการฉีด” ไปก่อน โดยบอกชัดๆ ว่า “จนกว่าจะได้รับการจัดสรรวัคซีนมา”
⦁…ประกาศให้ “วัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ” แต่การบริหารจัดการให้สมกับเห็นเป็นเรื่องสำคัญกลับไม่มีทำกัน ขนาด “1 ขวด” ผู้ผลิตกำหนดให้ “ฉีด 10 คน” ยังอวดเก่งจะฉีดให้ได้ “12 คน” แบบ “ข้าบริหารจัดการได้เหนือกว่านานาประเทศ” นึกเอาเองว่า “ชาวบ้านรู้ไม่ทัน” ว่า “แก้ต่างมีไม่พอ ด้วยการลดคุณภาพ” บอกให้เลยว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่” เพราะ “ไม่จัดการตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิต” ปัญหาจะตามมาอีกมาก
⦁…เมื่อลงพื้นที่พบปะประชาชน มีแต่เสียงบ่น “ไม่ไหวแล้วกับรัฐบาลแบบนี้” ทำให้ อันวาร์ สาและ ไม่มีทางทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าร้องขอต่อ “ผู้บริหารพรรค” ให้หาทางเยียวยาความรู้สึกของประชาชน ก่อนที่จะพากัน “สิ้นหวัง” จนพร้อมใจกันลบชื่อ “ประชาธิปัตย์” ออกจากความเชื่อถือศรัทธาอย่างถาวร
⦁…ทุ่มเต็มที่ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร หวังฟื้น “การบินไทย” ปรับใหญ่ทุกด้าน เป้าหมายคือทำให้ “เจ้าหนี้” ได้พอมองเห็นว่ามีอนาคต “ความช่วยเหลือ” คือทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ของ “กิจการที่เคยเกรียงไกร” ทำงานใหญ่ และยาก “เด็ดเดี่ยวในเป้าหมาย นิ่งต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์” นำสู่ความสำเร็จ ด้วย “เปิดเผย ตรงไปตรงมา”
⦁…ทุ่มเทอีกเหมือนกัน อลงกรณ์ พลบุตร ลงไปเป็นแม่งานใหญ่ สู้โควิดที่เพชรบุรี หลังระบาดหนักในโรงงาน ลามเกิดคลัสเตอร์ไปทั่ว ด้วยความคิด “พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส” ปิดโรงงานอุตสาหกรรม หันมาเหยียบคันเร่ง “พัฒนาระบบขายสินค้าออนไลน์” มุ่งเป้าช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อสร้าง “ระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน” ให้เกิดขึ้น
⦁…เป็น ส.ส.สมัยแรกที่ได้ใจ “ชาวบ้าน ร้านตลาด” ท่วมท้น จองชัย วงศ์ทรายทอง “ผู้กองเบิร์ด” ใช้เวลาช่วงปิดสภาแบบ เกินร้อย คลุกพื้นที่ “ร่วมสุข บรรเทาทุกข์” รับทุกเรื่องที่ประชาชนร้องขอให้ช่วย “น้ำไม่ไหล ไฟดับ รถไม่ขยับ ถนนพัง ข้าวหมดถัง ล้างเชื้อในตลาด ประกาศขอความร่วมมือฉีดวัคซีน” ไม่มีอะไรที่ปฏิเสธ สภาเปิดเมื่อไร น่าจะมีเรื่องอภิปรายให้ผู้เกี่ยวข้องรับรู้ว่าประชาชนทำไมถึง “อยู่ยาก”
⦁…ฟังเรื่องราวของ อังเดรย์ ถัง รมว.ดิจิทัล ไต้หวัน ที่คิดระบบตามตัวเพื่อแก้ปัญหาโควิดระบาดอย่างง่ายดายและรวดเร็ว ได้ผล แค่สแกน QR Code แล้วกดส่ง SMS ฟรี ใช้เวลาไม่กี่วินาที เก็บข้อมูลได้หมด ตรวจพบ “โควิด” ที่ไหน ตามตัว “กลุ่มเสี่ยง” มาตรวจสอบได้ทันที ทำให้นึกถึง “รัฐมนตรีดิจิทัลไทย” ยามประเทศโกลาหลกับ “การลงทะเบียนออนไลน์มั่วไปหมด” มีเวลาคิดอะไรช่วยเหลือบ้างหรือไม่ นอกจาก “หมกมุ่นกับเฟคนิวส์”
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่