“ณัฐวุฒิ” เปรียบแม่น้ำ 5 สาย เหมือนโจโฉมีเจียวก้าน ความคิดไม่เข้าท่าแต่เสนอหน้าทุกงาน สุดท้ายทำทัพเรือล่ม
เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.กล่าวว่า ในที่สุดก็ได้เห็นว่าเรื่องใหญ่ที่สุดของแม่น้ำ 5 สาย และองค์กรสนับสนุนเรือแป๊ะคือตำแหน่งและผลประโยชน์ทางการเมือง ทั้งการแย่งเก้าอี้ประธาน กกต. ซึ่งทั้งคณะตั้งแต่รับตำแหน่งยังไม่มีผลงานอะไรเป็นที่ยอมรับ จัดเลือกตั้งก็เอียงจนล้ม จัดประชามติก็ร่างกติกาขัดหลักสากล และมีปัญหาเรื่องความเป็นธรรมในการบังคับใช้ แทนที่จะทบทวนบทบาทแล้วปรับปรุงให้ดีขึ้น กลับหักกันเรื่องตำแหน่ง ประชาชนเรียกร้องอะไรไม่เคยทำหนังสือถาม คสช. แต่ไปถามเรื่องเก้าอี้
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า รวมถึงการยืนยันสิทธิที่จะเป็น ส.ว.ลากตั้งของ สปท. ทั้งๆ ที่แสดงสปิริตเว้นวรรคได้ โดยที่ตัวเองไปเสนอเซตซีโร่ ตัดสิทธิคนอื่นเขาหลายเรื่อง และการเตรียมเพิ่มจำนวนกรรมาธิการของ สนช.เพื่อรองรับอีก 30 คนที่จะตั้งเข้าไปใหม่ ซึ่งต้องเพิ่มทั้งเจ้าหน้าที่และงบประมาณ ทั้งที่เหลือเวลาอีกเพียงปีเศษในการทำหน้าที่ น่าจะกระจายคนที่มาใหม่ให้เข้าคณะที่มีอยู่ก็ได้ เรื่องแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการกล่าวหานักการเมืองว่าเล่นเก้าอี้ดนตรี ต่างกันตรงที่คนเล่นดนตรีให้หยุดหรือไปต่อของนักการเมืองคือประชาชน แต่ของคนพวกนี้คือเผด็จการ
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอทั้งหลายที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่เวลานี้ ไม่รู้ว่าฝ่ายยุทธศาสตร์ของ คสช.คิดอย่างไร ในฐานะที่นายกฯไปประชุมที่เมืองจีนก็ขอเปรียบเทียบว่า ถ้าเรือแป๊ะเป็นทัพเรือของโจโฉในสามก๊ก แป๊ะมีหางเครื่องขาประจำพวกนี้ก็เหมือนโจโฉมีเจียวก้าน ความคิดไม่เข้าท่า แต่เสนอหน้าทุกงาน สุดท้ายความเลอะเทอะของเจียวก้านก็ทำทัพเรือโจโฉล่ม ถ้าแป๊ะไม่ระวังคนพวกนี้อาจทำเรือแป๊ะเผชิญมรสุมเอาง่ายๆ