09.00 INDEX เตือน ระคนขู่ แนวโน้ม “ยุบสภา” สายตา ทอดไปยัง “ภูมิใจไทย”
อะไรคือ “สัญญาณ” อันใกล้เคียงกับความเป็นจริงในทางการเมืองมากที่สุด
อย่าคิดว่าเสียงจาก นายวิษณุ เครืองาม จะไร้ความหมาย
เป็นเสียงเตือนในเรื่อง “ยุบสภา” ดูเผินๆเหมือนกับจะดำเนินไปตามกฎหมายและนิติประเพณี เพราะว่าหากกฎหมายสำคัญซึ่งเสนอโดยรัฐบาลไม่ผ่านก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น
กระนั้น ทำไมต้องเน้นไปที่ “การยุบสภา” ทำไมไม่ระบุว่า “การ ลาออก” ก็อาจจะเป็นหนทางหนึ่ง
เด่นชัดว่าเสียงนี้มิได้สื่อไปยัง 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน
เพราะถึงอย่างไรจำนวน 211 ของ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านก็มีผล น้อยมากไม่ว่าต่อร่างพรบ.งบประมาณ ไม่ว่าต่อพรก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่ผ่านความเห็นชอบของครม.
หากน้ำหนักของการเตือนจะอยู่ที่ 277 เสียงที่มีอยู่มากกว่า
ยิ่งหากสนใจการเคลื่อนไหวในด้าน “ลึก” จากที่ประชุมพรรคร่วม รัฐบาลบางพรรคยิ่งจะจับได้ในเบาะแสและร่องรอย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
หากจับจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ออกมายืนยันถึงความเป็นเอกภาพภายในพรรคร่วมรัฐบาลต่อหน้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็จะจับได้ใน “ความนัย”
เป็นการยืนยันหลังจากพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติ ไทยพัฒนามาแล้วเหมือนจะขอคำรับรองจากพรรคภูมิใจไทย
นั่นอาจเป็นการสะท้อนต่อสำเหนียกในทางการเมือง เพราะว่าในการประชุมพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่งออกมาชม ส.ส.ของพรรคอย่างน้อย 3 คน
คนหนึ่งคือ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค คนหนึ่งคือ นายภราดร ปริศนานันทกุล และ นายสิริพงษ์ อังเกียรติสกุล
บทบาทของ 3 คนนี้เป็นอย่างไรก็ประจักษ์อย่างแจ้งชัดแล้ว
สายตาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันสะท้อนผ่านเสียงเตือนของ นายวิษณุ เครืองาม จึงเท่ากับบ่งบอกการเรียกร้องต้องการคำ ยืนยันจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล
เพราะ 60 กว่าเสียงของพรรคภูมิใจไทยทรงความหมายยิ่ง
ทรงความหมายพอๆกับ 50 กว่าเสียงของพรรคประชาธิปัตย์และ 10 กว่าเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา
กระนั้น เมื่อ 3 พรรคผนวกรวมกันก็มากกว่า 100 เด่นชัด