‘โตโต้’ หวน ปวศ. รำลึกวีรบุรุษ ปชต. มอง ‘ครูครอง’ ถูกป้ายสีเป็นกบฏ ใช้ ม.17 สั่งประหาร เทียบ ‘ม.44’ ของบิ๊กตู่
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม เนื่องในวันคล้ายวันประหารชีวิต นายครอง จันดาวงศ์ หรือ ครูครอง นักสู้เพื่อประชาธิปไตย เจ้าของวลี “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ครบรอบ 60 ปี นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ เผยแพร่ภาพสด ผ่านทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก
นายปิยรัฐกล่าวว่า ปกติทุกปีจะต้องไปร่วมงานรำลึกวันประหารชีวิตครูครอง จันดาวงศ์ แต่ปีนี้ไม่ได้ไป เพราะการเดินทางที่ต้องกลับมาต่อสู้คดีทางการเมืองที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงต้องมาไลฟ์สด เพื่อแสดงให้ดวงวิญญาณของครูครองรับรู้ว่า ได้พยายามแล้ว
“ครูครอง จันดาวงศ์ เปรียบเสมือนเป็นวีรบุรุษคนหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะคนในภาคอีสานจะเคารพนับถือครูครองมาก นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะต้องไปที่อำเภอสว่างแดนดิน เพื่อเคารพสถูปครูครอง” นายปิยรัฐกล่าว
ในตอนหนึ่ง นายปิยรัฐ ได้กล่าวถึงชีวประวัติของนายครอง ว่า เดิมทีครูครองเป็นลูกชาวไร่ชาวนา และได้มีโอกาสไปเรียนหนังสือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจึงได้กลับมาสอนที่จังหวัดสกลนคร จนกระทั่งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นขึ้น เรียกว่า “ขบวนการเสรีไทย” ซึ่งครูครองก็เข้าร่วมด้วย และถือเป็นหนึ่งในขุนพลของครูเตียง สิริขันธ์ ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลไทยก็ได้มีการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น
“แผ่นดินอีสานเวลานั้น ขบวนการเสรีไทยจึงใช้ อำเภอภูพาน เป็นสถานที่มั่นสำคัญในการต่อสู้กับญี่ปุ่น มีการทำสนามบินลับๆ กลางวันเป็นทุ่งนา ตกกลางคืนเป็นสนามบิน นี่คือเชาว์ปัญญาของคนอีสาน ที่นำโดยครูครอง และครูเตียง จนกระทั่งเราได้ตกเป็นผู้เกือบแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เรารอดพ้นมาได้ เพราะสหรัฐอเมริกาที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือกับขบวนการเสรีไทย”
นายปิยรัฐกล่าวอีกว่า ครูต้องตายเพราะคนไทยด้วยกันเอง นั่นคือในปี พ.ศ. 2504 สมัยรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ซึ่งครูครองเสียชีวิตด้วยการสั่งประหารเพราะการใช้ ม.17 แห่งรัฐธรรมนูญในสมัยนั้น เทียบคือ ม.44 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีอำนาจเหนืออธิปไตยทั้งปวง และครูครองได้มาถูกประหาร ที่ลานประหารเฉพาะกิจ สภ.สว่างแดนดิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านประกาศใจความว่า “ด้วยเป็นภัยคุกคามของรัฐ และเป็นภัยต่อความมั่นคง”
“ตอนนั้นครูครองต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ถึงขนาดที่ทำทุกวิถีทาง ทั้งสันติวิธี อหิงสาวิธี จนจับอาวุธขึ้นมาต่อสู้ เพราะเขาไม่มีทางเลือก ครูครองถึงขนาดที่เป็นแกนนำชาวบ้านในการต่อสู้ แต่รัฐก็ใช้กลไกต่างๆ มากดขี่เขา จนในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขาได้ลงเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่ในเรือนจำ และปรากฎว่าชนะเลือกตั้งทั้งที่ยังใส่ตรวน ทำให้เผด็จการกลัว เพราะนั่นคือ การตอบโต้ของประชาชนด้วยปากกาที่ปลายมือ จนท้ายที่สุดก็ถูกหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี จนครูครองกลายเป็นกบฏ” นายปิยรัฐกล่าว
นายปิยรัฐกล่าวทิ้งท้ายว่า นี่คือสิ่งที่คนอีสานถูกกดขี่ข่มเหงมาโดยตลอด คนอีสานถูกทำให้กลายเป็นเบี้ยล่าง และฆ่าเขาเหมือนหมูเหมือนหมา ครั้นครูครองจะโดนประหารชีวิต เขาเดินเข้าหลักประหารด้วยความไม่เกรงกลัว และกล่าวคำวาจาสิทธิ์ว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ก่อนจะถูกประหารด้วยกระสุนปืนกลกว่า 90 นัด จนร่างขาดลิ่ว แทบจะแหลกเหลว
“วลีนี้จึงเป็นคำที่ก้องในหูของพวกเรา และสั่นโสตประสาทพวกเผด็จการอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นี่คือที่มาที่ไป ของครูครอง จันดาวงศ์ วันนี้ผมจึงต้องมาพูดเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เรื่องนี้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองของไทย แม้ว่าทุกวันนี้ผ่านมา 60 ปีแล้ว ครูครอง จะยังไม่ได้รับความยุติธรรมเลยก็ตาม” นายปิยรัฐกล่าว
อ่านข่าว : ครบ 60 ปีประหาร ‘ครูครอง จันดาวงศ์’ เจ้าของวาทะ ‘เผด็จการจงพินาศ ปชต.จงเจริญ’ 31 พ.ค. 2504
