โฆษกรบ. แจงยิบงบสู้โควิด เผย ‘อนุทิน’ ยันกลางวงครม. ลูกพรรคเข้าใจผิด ตัดเงินสธ.

“บิ๊กตู่” ยันพรรคร่วมไร้ปัญหา หลัง ”ชาดา” ชวน “เสี่ยหนู”กลับบ้าน เจ้าตัวแจงกลางวง ครม.สมาชิกอาจเข้าใจผิด เตรียมลุกแจงในสภา พร้อมทำความเข้าใจสมาชิกพรรค

เมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 1 มิถุนายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงเรื่องของงบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่สื่อมวลชนถามว่า นายกรัฐมนตรีมีความเห็นอย่างไร ต่อท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจกับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการพูดคุยกับสมาชิกพรรคของตัวเองในรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งในที่ประชุมครม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า อาจจะเกิดการเข้าใจผิดกันในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ เพราะนอกเหนือจากงบประมาณในรายกระทรวงแล้ว ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ยังมีงบประมาณอื่นๆทั้งที่เป็นงบกลาง และงบที่นำมาใช้จากกรอบวงเงินกู้ ซึ่งเมื่อนำมาบวกกันแล้ว จะเห็นได้ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โควิด-19

นายอนุชา กล่าวว่า งบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีอยู่ทั้งสิ้นประมาณ 153,900 กว่าล้านบาทก็จริง แต่ยังมีในส่วนของงบประมานที่ตั้งไว้ที่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และมีงบประมาณที่ตั้งไว้ที่กองทุนการแพทย์ฉุกเฉินอีก เพราะฉะนั้นเมื่อรวมกันแล้วก็จะมีวงเงินในส่วนของงบปกติตั้งไว้ถึง 293,000 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้มีการพูดถึง มีการพูดถึงเฉพาะงบที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาได้ ตัวอย่างเช่นงบที่มาจากงบกลาง ล่าสุดที่ได้มีการอนุมัติไป 311 ล้านบาท เพื่อให้เป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันโรค โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ส่วนนี้ก็เป็นงบประมาณที่มาจากกรอบวงเงินรายจ่ายประจำปีที่เป็นงบกลาง เป็นรายการค่าใช้จ่ายเพื่อบรรเทาแก้ไขปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรค โควิด-19

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้งบกลางยังมีอีกหลายส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว อาทิ รัฐบาลได้จัดให้มี สถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้กับประชาชนที่ต้องกักตัว 14 วัน หรือ State Quarantine ที่ผ่านมาครม. ได้ใช้งบกลางในการดูแล โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือแม้กระทั่งการจัดหาวัคซีน จำนวนหลาย 10 ล้านโด้ส ก็ใช้เงินจากงบกลางทั้งสิ้น ไม่ได้ผ่านมาในส่วนของงบกระทรวงสาธารณสุข หากไปดูตัวเลขของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเดียวก็จะไม่สามารถเห็นตัวเลขที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ได้ ต้องนำงบประมาณในส่วนอื่นๆ ทั้งงบจากเงินกู้ งบจากส่วนกลางมาบวกรวม ทั้งการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การจัดหารถโมบายในการตรวจคัดกรองต่างๆ ทั้งหมดมาจากงบเงินกู้ทั้งสิ้น

“ประเด็นที่สื่อมวลชนสอบถามมาว่า นายกรัฐมนตรีจะแก้ปัญหา และดูแลพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หลังเกิดความระหองระแหงขึ้นมานั้น เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีความระหองระแหงในพรรคร่วมรัฐบาลอะไรทั้งสิ้น ในการประชุมครม.ก็ได้มีการพูดคุยกันด้วยดีทุกอย่าง ทุกพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้มีการชี้แจงว่า จะได้ทำการพูดคุยกับสมาชิกของพรรคตัวเองเพื่อ ชี้แจงให้เกิดความเข้าใจในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยนายอนุทิน ได้บอกว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังจากที่สมาชิกได้อภิปรายในบางส่วนแล้ว ก็จะลุกขึ้นชี้แจงด้วยตัวเองถึงงบประมาณของกระทรวงสาธาณสุขที่ได้รับอย่างเหมาะสม โดยนายกรัฐมนตรีได้กรุณาจัดสรรงบประมาณทั้งในส่วนของงบกลาง งบเงินกู้เพิ่มเติมให้กับกระทรวงสาธารณสุขด้วย

Advertisement

“ยืนยันว่าการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบันไม่มีปัญหาใดใดทั้งสิ้น ยังทำงานด้วยความพยายามที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ประชาชนมีความชัดเจนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการการฉีดวัคซีน การจัดหาวัคซีนทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือก รัฐบาลจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การแพทยระบาดของโรค โควิด-19 ทุเลาลงให้ได้มากที่สุด” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาต่างๆนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเฉพาะเงิน 5 แสนล้าน จาก พ.ร.ก.เงินกู้ ก็จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับความร่วมมือที่ดีจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน โดยแผนงานทั้งหมดมีอย่างชัดเจนว่า จะใช้เงินจำนวน 5 แสนล้านบาทอย่างไร จะนำไปใช้ในกรอบอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุขทั้งสิ้น ทั้งการจัดหาเวชภัณฑ์ การจัดหาอุปกรณ์ต่างๆในการดูแลผู้ป่วย การจัดหาวัคซีน การเยียวยาในอนาคตให้กับประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image