“บิ๊กตู่” หงุดหงิด “อัศวิน” ประกาศผ่อนคลายโดยไม่ถาม พร้อมน้อยใจพรรคร่วมรบ.อภิปราบงบฯปากบอกโอเคช่วยกันแต่ซัดโครมๆ
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ปรากฏว่า เกิดปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตของระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มีปัญหาทำให้เกิดจอดับถึง 3 ครั้ง จนทำให้การประชุมต้องสะดุดเป็นระยะๆ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการประชุมครม.ที่ผ่านมา จนครั้งหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยบ่นว่า เหตุใดจึงยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมครม.ครั้งนี้ส่วนใหญ่หารือถึงมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน แต่มีบางช่วงได้มีการพูดถึงบรรยากาศในการประชุมสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้ปรารภเชิงตัดพ้อน้อยใจ กรณีมีส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ที่อภิปรายวิพากษ์วิจารณ์การจัดทำงบประมาณว่า “ขอให้ช่วยๆกัน ตรงไหนเกี่ยวข้องก็ให้ช่วยเร่งตอบ ปากก็ว่าโอเค แต่ปล่อยให้ลูกพรรคซัดโครมๆ“
นอกจากนี้ ยังมีช่วงหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ช่วยชี้แจงรายละเอียดงบประมาณกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกตัดไปว่า เป็นส่วนไหนอย่างไร และให้บอกด้วยว่าในงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน กระทรวงสาธารณสุขได้งบตรงไหนอย่างไรบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่าระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์กำลังพูดอยู่ ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ขัดข้อง ทำให้รัฐมนตรีหลายคนหลุดจากระบบการเชื่อมต่อออกไป แต่พอเมื่อระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กลับมาปกติ หลายคนไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอะไรไปแล้วบ้าง แต่ได้ยินเสียงนายสาธิต หัวเราะแฮะๆแก้เขินอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครม.ครั้งนี้ ในบางช่วง พล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงอาการหงุดหงิด ต่อกรณีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศผ่อนคลาย 5 กิจการกิจกรรม ไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม จน ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต้องออกมาเบรกในตอนค่ำว่า ทำอะไร ตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ยอมบอกแต่กลับประกาศออกไปเลย เหมือนหวังจะหาเสียงจนนายกรัฐมนตรีต้องออกมาเบรกเอง เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน