สุทิน ไล่รบ.ไปแก้งบฯ แนะเปลี่ยนตัวนายกฯ ช่วยชาติ เหตุช้าทุกอย่าง อัด 102 ปีถึงใช้หนี้หมด

“สุทิน” กังขา รบ.จัดงบฯลดขณะที่ไม่มีเงินในระบบ ถาม “วันนี้คุณจะประหยัดอดออม หรือประหยัดอดตาย” ไล่ไปแก้งบฯ พร้อมเปลี่ยนตัวนายกฯด้วย เพราะเป็นลุงตู่ลมโชย เฉื่อยชา ช้าทุกอย่าง บอกนากยกฯ หาจังหวะพิจารณาตัวเอง เปลี่ยนผู้นำประเทศวันนี้คือการช่วยชาติ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) อภิปรายสรุปว่า ตนขอจำลองประเทศไทยเป็นครอบครัวหนึ่ง ชื่อครอบครัวไทยอุดม มีหัวหน้าครอบครัวมาแล้ว 29 คน รอบบ้านมีครอบครัวต่างๆอีก 180 กว่าประเทศ ซึ่งครอบครัวไทยอุดมคือครอบครัวกำลังพัฒนา ที่รายได้น้อยกว่ารายจ่าย หัวหน้าครอบครัวจึงต้องจัดงบฯแบบขาดดุล สำคัญที่ว่าหัวหน้าครอบครัวไปกู้เงินมาแล้วเอาไปทำอะไร ถ้าใช้ถูกปีต่อไปก็กู้น้อยลงๆ จนหนี้ค่อยๆหมดไปได้ มีอยู่ยุคหนึ่งที่ผู้นำครอบครัวจัดงบฯสมดุล ไม่ต้องกู้เงินเลย หัวหน้าครอบครัวคนนั้นชื่อนายทักษิณ ชินวัตร จากนั้นหัวหน้าครอบครัวก็โดนยึดอำนาจ แล้วก็กู้เงินเรื่อยมา มายุคที่หัวหน้าครอบครัวชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปี 55 กู้ 5 แสนล้านบาทจริง แต่จากนั้นก็กู้น้อยลงเรื่อยๆ ตั้งเป้าว่าปี 60 จะสมดุล แต่ก็โดนรัฐประกหารอีก พอหัวหน้าครอบครัวชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชาเข้ามา ก็กู้สูงขึ้นๆๆ จนมีคนเตือนว่ากู้มากไปแล้ว หนี้สาธารณะสูงขึ้น แถมจีดีพีลดลงเรื่อยๆ ขณะที่หนี้ครัวเรือนสูงขึ้นๆๆอีก

ซ้ำความเหลื่อมล้ำยังติดอันดับโลก คนในครอบครัวเริ่มอยู่ไม่ได้ ไม่มีกิน จนลูกหลานในครอบครัวรวมตัวออกมาเรียกร้อง ชื่อกลุ่มเยาวชนปลดแอก นี่ยังไม่มีโควิดนะ พอมาถึงจุดนี้หัวหน้าครอบครัวเริ่มรู้ตัวแล้วว่าไปไม่รอด เพราะหาเงินไม่เป็น เลยไปแก้กฎกติกา 3 อย่าง คือ

1.ไปทุบกระปุกมาหมด กองทุนประกันสังคม กองทุนอนุรักษ์พลังงาน กองทุนต่างๆ แต่ก็ยังไม่พอ
2.ไปแก้กฎหมาย เริ่มจาก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่เคยให้ชำระเงินต้น 2.5 เป็น 1.5 เพื่อจะได้ใช้หนี้น้อยๆ ไม่พอ ไปแก้งบฯกลาง ในหมวดฉุกเฉินจำเป็น จาก 3.5% เป็น 7.5% เพื่อจะได้ใช้เงินมากๆ และ
3.แสบที่สุด คือไปแก้พ.ร.บ.วิธีงบประมาณ ที่เวลาใช้งบฯกลางไม่พอให้ใช้เงินคงคลังได้ ซึ่งกฎหมายเดิมให้ใช้ได้ 100 ล้านบาท แก้เป็นให้ใช้ได้ 5 หมื่นล้านบาท ทั้ง 3 ข้อนี้มีพิรุธมาก เพราะไม่มีชี้แจงการใช้งบฯในส่วนต่างๆเหล่านี้เลย

Advertisement

นายสุทิน กล่าวว่า ผีซ้ำด้ำพลอย โควิดมาอีก ปีแรกที่โควิดมา ขาดดุลเพิ่มขึ้นเต็มแม็ก ผู้นำครอบครัวยังคิดนอกลู่นอกทางไปอีก โดยการไปกู้เงินมา และแทนที่กู้เงินมาแล้วจะเอามาลงทุน แต่กลับเอาเงินไปแจกผ่านโครงการต่างๆ งบฯสาธารณสุขเราก็ติงแต่แรกแล้วว่าเหตุใดจึงให้เขาน้อย แถมยังเบิกจ่ายไปเพียงครึ่งเดียว สาธารณสุขเราก็อ่อนแอ ตนเชื่อว่าใจจริงท่านอยากกู้มากกว่านี้อีก แต่ท่านติดกรอบวินัยการเงินการคลัง วันนี้ ครอบครัวนี้รายได้หาย กู้เงินเต็มแม็กแล้ว และมีแววว่าจะจัดเก็บรายได้ไม่ถึง 2.4 ล้านบาทอีก วันนี้ท่านหัวหน้าครอบครัวต้องตอบว่า ปีหน้าจะเอายังไง วันนี้ครอบครัวกำลังเดินมาถึงจุดจะหมดทางไปแล้ว วันนี้ท่านตัดสินใจลดงบฯลง เหลือ 3.1 แสนล้านบาท แบบนี้ตายเลย เพราะไม่มีใครเขาทำงบฯน้อยลง อีกหน่อยครอบครัวนี้ก็จะเป็นครอบครัวที่เบี้ยวหนี้เขา เป็นครอบครัวที่แบกหนี้ หนี้ท่วม หนี้ประเทศ หนี้ครัวเรือน หนี้สถาบันการเงิน หนี้ภาคธุรกิจ และหนี้นอกระบบ วันนี้เราไม่ได้กล่าวหานายกฯว่าไปกู้ แต่กล่าวหาว่ากู้แล้ว ให้เวลามาแล้ว 7 ปี แต่ไม่มีเบาลงเลย หนักขึ้นเรื่อยๆ

นายสุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้ครอบครัวนี้กลัว 2 เรื่อง คือไม่มีกิน กับกลัวโควิด บังเอิญว่า 2 สิ่งนี้พันกัน วันนี้ การท่องเที่ยวดับสนิท การส่งออกดับ การบริโถคในครัวเรือนก็ยังโงหัวไม่ขึ้น วันนี้พ่อค้าแม่ค้าเจ๊งกันหมด ท่านอัดเงินผิดทาง สุดท้ายการลงทุน เอกชนหมอบสนิท เหลือเพียงการลงทุนภาครัฐซึ่งเป็นโอกาสเดียวที่เศรษฐกิจจะฟื้น และเป็นสิ่งที่เราพูดกันมาหลายวันนี้ แต่เมื่อมาดูแล้วก็หมดหวัง เพราะการลงทุนลดลงๆ ท่านต้องอัดเงิน และจัดการกับโควิดให้ได้ แต่เท่าที่มองงบฯ ตรงนี้ไม่สามารถทำได้ ทุกคนกังวล หวังกับการลงทุนคิดเพียง 17% ของจีดีพีเท่านั้น แต่คนไม่มั่นใจเพราะรัฐบาลนี้ประมาณการผิดพลาด เป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งงบฯผิด ที่บอกว่า เศรษฐกิจปี 65 จะขยายตัว 2-5% ผิดแล้ว เพราะทุกคน และสถานบันการเงินอื่นๆบอกไม่เกิน 1-2%

Advertisement

ต่อมาคือ ประมาณการว่าครึ่งปีหลังโควิดจะหาย เมื่อโดควิดหายเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ถ้าไม่เป็นไปตามที่ประมาณการก็เท่ากับตั้งงบฯผิดหมด หลายคนบอกโควิดไม่มีทางหาย เพราเพิ่งฉีดวัคซีนได้เพียง 2% ยอดป่วยตายยังขึ้น แล้วที่ติดใจกันมากคือไปลดงบฯทำไม วันนี้คนขาดเม็ดเงิน จะรักษาได้คือต้องเติมเงินเข้ามาในระบบ ต้องอัดเงินลงไป ไม่ใช่ลดลงๆ ถามจริงๆว่าวันนี้คุณจะประหยัดอดออม หรือประหยัดอดตาย การลดงบฯลงเป็นสัญญาณของมหันตภัย เป็นลางร้ายของประเทศ ที่ควรลดไม่ลด ที่ไม่ควรลดไปลด คู่เทียบง่ายๆคืองบฯกระทรวงสาธารณสุข กับงบฯกระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุขเขาถึงน้อยใจ เพราะเขาคือทหารเอกในการรบกับโรค ตัดงบฯกรมควบคุมโรค และงบฯบัตรทอง ทั้งที่ชาวบ้านเขาหวงที่สุด ท่านตัดงบฯบัตรทองได้อย่างไร แต่งบฯกระทรวงกลาโหมไม่ตัด พอเขาถามหางบฯซื้อวัคซีนว่าเขียนไว้ไหน นายกฯท่านก็บอกว่า ไม่มีในนี้ก็มีงบฯจาดส่วนอื่น เช่น งบฯกลาง ก็แล้วทำไมท่านไม่เขียนไว้ ก็เขาไม่เห็นใครจะอุ่นใจ ก็บรรจุส่วนที่สำคัญไว้ในกฎหมายสำคัญสิ แบบนี้ไงท่านจึงไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้

นายสุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้วัคซีนมีปัญหามาก เป็นเพราะนายกฯบริหารอย่างไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อวานวัคซีนไฟเซอร์ขับผ่านเราไปลาว เรื่องวัคซีนของเรากลายเป็นความล้มเหลว และความสิ้นหวังอย่างชัดเจน นายกฯบอกคนไทยได้ฉีดทุกคนแน่ ตนเชื่อ แต่ทำไมท่านไม่ต่อท้ายว่า ถ้าไม่ตายก่อน คือได้ฉีดแน่ ถ้าไม่ตายก่อน ตนไม่ได้เหน็บแนม แต่วัคซีนต้องฉีดทันเวลา วันนี้วัคซีนที่ดีคือวัคซีนที่มาทันเวลา มีคุณภาพ และกระจายด้วยความเป็นธรรม ตนเจอมากับตัว ไปสถาบันที่ว่า บอกวัคซีนไม่มี มีแต่ซิโนแว็ก อายุตนขนาดนี้ ไม่ได้แอสตราฯตนก็กลับบ้าน

ทั้งนี้ เรื่องวัคซีนนี้ท่านผิดพลาดเพราะท่านประมาท ประเมินผิด นอกจากนี้ ท่านตั้ง ศบค. แบบเอาทหารมานั่ง เอาเลขา สมช.มาเป็นประธาน เอาหมอเดินตามหลังทหาร แบบนี้ก็งงสิ อย่างไรก็ตาม วันนี้ไปถามประชาชนทั้งประเทศได้เลย เขาคิดว่ารัฐบาลมีผลประโยชน์กับวัคซีน มีส่วนต่าง มีเงินทอน เพราะคุณไม่เข้าโครงการโคแว็กซ์ ทำไมเชียร์จังยี่ห้องซิโนแว็ก มาก่อนเตั้งแต่ไก่โห่ ขณะที่ยี่ห้ออื่นไม่มา เหมือนเจตนาจะดีเลย์ยี่ห้องอื่นไว้ให้ยี่ห้อนี้ทำตลาดจนเต็ม และสิ่งที่คนไทยอยากได้ เช่น ไฟเซอร์ โมเดอน่า จอนสันแอนด์จอนสัน ไม่มา เพราะอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายห้ามติดสินบนเคร่งครัดมาก บริษัทไหนที่ไม่อยากได้ ไล่ให้เขาไปตามขั้นตอนของ อย. แต่บริษัทไหนอยากได้ บินไปหาเขา

ในขณะที่ประชาชนกำลังประสบวิกฤติ มีคนเห็นเป็นโอกาส ใครหากินบนความเป็นความตายของชาวบ้านโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม บาปกรรมต้องตามทัน ไม่พอ เอกชนดิ้นรนแทบตายอยากเอาวัคซีนเข้ามาทำไมไม่เอา อาการนี้เรียกว่าอะไร แถมมีโรงพยาบาลออกมาแฉว่ามีโมเดอน่าเข้ามา แต่ต้องผ่านหลายขั้นตอน เสียเงินรายทาง ตนไม่เชื่อว่าจะฉีดวัคซีนได้ทันเวลา ถ้าระบบและวิธีคิดยังเป็นแบบนี้ และเครื่งยนต์เศรษฐกิจก็พังต่อไป

นายสุทิน กล่าวว่า พวกตนเห็นว่าจัดงบฯแบบนี้รับไม่ได้ และไม่ให้ผ่าน ท่านต้องกลับไปทำใหม่ ยังมีเวลา 2 ปีที่ผ่านมาพวกตนใจอ่อน กลัวชาวบ้านไม่มีเงิน แต่กฎหมายมี ปีนี้พวกตนไม่ใจอ่อน ไปแก้มาให้ตอบโจทย์ อย่าผิดทิศผิดทาง พี่น้องประชาชนไม่ต้องวิตก ถ้าพ.ร.บ.งบฯฉบับนี้ตกกฎหมายให้กลับไปใช้ฉบับปี 64 เอาสิ เพราะปี 64 เงินเยอะกว่านี้ แถมยังมีเงินกู้อีก 5 แสนล้านบาทอีก และเมื่อไปแก้กลับมาแล้ว จะให้ผ่านไหม ตนก็ต้องคิดก่อน เพราะหากนายกฯ ชื่อประยุทธ์ ยังเป็นผู้บริหารงบประมาณเช่นเดิม แม้ไปแก้มาจนถูกทิศถูกทางแล้ว ตนก็ไม่เชื่อว่าท่านจะบริหารงบฯได้

“ท่านเป็นลุงตู่ลมโชย เฉื่อยชาไปทุกอย่าง เราต้องเปลี่ยนนายกฯด้วย เพราะนิสัยส่วนตัว และวิธีคิดไม่รับผิดชอบ ทั้งนี้ หนี้สาธารณะที่ท่านสร้างถ้าแบ่งใช้ตามเรทวันนี้ที่ใช้ทุกปี ต้องใช้เวลา 102 ปีถึงจะหมด ตนภาวนาถ้าได้เป็นนายกฯ สักครั้งในชาตินี้ ขอเป็นต่อจากพล.อ.ประยุทธ์นี่แหละ เพราะจะได้ใช้หนี้สาธารณะให้พล.อ.ประยุทธ์บ้าง แล้วตนก็จะพูดแบบที่พล.อ.ประยุทธ์พูดว่า นี่ ตนใช้หนี้ให้พล.อ.ประยุทธ์อีกตั้ง 102 ปี แต่คิดแล้วแม้ได้เป็นก็ไม่พูดหรอก เพราะพ่อแม่ตนสอนว่าถ้าทำผิดแล้วโยนความผิดให้พี่น้องโดนตีก่อนเลย ตนจึงไม่เคยโยนความผิดให้ใคร”

“ท้ายนี้ การจัดงบฯวันนี้ จัดแบบผิดฝาผิดตัว จัดแบบทองไม่รู้ร้อน ปีหน้าคนก็จะมาถามว่าหนี้ที่ก่อไว้จะเอาอย่างไรต่อ แล้วปีถัดไปจะเอาอย่างไรต่อ วันนี้ชนเพดานทุกตัว ท่านนายกฯช่วยตอบให้คนไทยมั่นใจหน่อย ท่านแก้ พ.ร.บ.ฉบับนี้มา แล้วหาจังหวะพิจารณาตัวเอง เปลี่ยนผู้นำประเทศวันนี้คือการช่วยชาติ เพราะถ้าท่านยังอยู่ต่อไป ท่านมั่นใจว่าท่านมีบารมีพอจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือ

ตนเห็นอาการ 2-3 วันมานี้ ตนก็ห่วงว่าจะพาประเทศไปอย่างไร นักรบผู้ยิ่งใหญ่ ขุนศึกผู้เกรียงไกร จะพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของตัวเองอกมาเมื่อถึงเวลาคับขัน แต่นักรบชื่อประยุทธ์ สถานการณ์ธรรมดาก็โชว์ไม่ได้ มาเจอสถานการณ์ใหญ่อย่างโควิดยิ่งตายเลย สิ่งที่นายกฯทำไม่ได้ และไม่มีวันทำได้ คือเรียกความเชื่อมั่นกลับมา เมื่อท่านเรียกกลับมาไม่ได้ เครื่องยนต์เศรษฐกิจทั้ง 4 ก็จอดตายอยู่อย่างนั้น ตนขอรัฐมนตรีทุกท่าน ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลทุกคน หยุดการบริหารประเทศเพื่อชาติ คนอื่นเก่งๆมีพอ แต่ถ้าท่านไม่หยุดสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าก็ช่วยตอบตน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image