นายกฯ ร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ชู วิสัยทัศน์ 3 ด้านเร่งการพัฒนา

นายกฯ ชู วิสัยทัศน์ 3 ด้านเร่งพัฒนาอาเซียน เศรษฐกิจ บุคลากร การสร้างความเชื่อมโยง ย้ำต้องมีมาตรการรองรับการเปลี่ยนแปลง มั่นใจ จะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์เพื่อให้ประชาคมฯพัฒนาไปข้างหน้า

วันนี้ (6 ก.ย.) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ(National Convention Centre – NCC) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 โดยนายทองลุนสีสุลิด นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวในฐานะประธานอาเซียนเป็นประธานในพิธี โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงขอบคุณรัฐบาลและประชาชนชาวลาวที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมทั้งชื่นชมการทำหน้าที่ประธานประธานอาเซียนของลาวในปีนี้ได้อย่างดีเยี่ยมปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญเนื่องจากเป็นปีแรกที่ก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน อาเซียนควรเร่งเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วเพื่อความเป็นเอกภาพและมั่นคงของประชาชนอาเซียน โดยการสร้างความสมดุลเพื่อนำวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 3 ด้าน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านเศรษฐกิจ อาเซียนควรเสริมสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มีพลวัตควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน และประชาชนได้รับการดูแลและประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างทั่งถึงและเท่าเทียม รวมทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมเพื่อก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนของไทยมีนโยบาย 4.0 ที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมวิสาหกิจเกิดใหม่ (Start-Ups) การเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) 5 สาขาและยังคงให้การดูแลอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-Curve) ด้วย เพื่อเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการพัฒนาและเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาค

“ประชาคมอาเซียนต้องให้ความสำคัญเรื่องความมั่นคงของมนุษย์มากขึ้นไทยจะร่วมรับรองแผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียนฉบับที่ 3 (ค.ศ. 2016-2020) ในการประชุมสุดอาเซียนครั้งนี้และไทยจะปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานอาเซียนเรื่องการส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนภายใต้วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 กับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนค.ศ. 2030 อย่างแข็งขันเพื่อช่วยให้อาเซียนดำเนินการตามวาระที่สำคัญทั้งสองไปพร้อม ๆ กันและส่งเสริมซึ่งกันและกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การสร้างประชาคมอาเซียนที่แข็งแกร่งและมั่นคงต้องพัฒนาศักยภาพของคนทุกวัยอย่างสมดุลให้มีส่วนร่วมในประชาคมอย่างสร้างสรรค์โดยการให้การศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพของรัฐที่ปรับปรุงวิธีการสอนให้ทันสมัยเพื่อให้เยาวชนอาเซียนเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคที่ 4 ขณะเดียวกันจะต้องเร่งเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้เพื่อส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ไทยจึงได้เสนอแถลงการณ์อาเซียนบวกสามว่าด้วยสูงวัยอย่างมีศักยภาพเพื่อส่งเสริมให้ภูมิภาคนี้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้นที่จะรับมือกับสังคมผู้สูงอายุและเพื่อให้ผู้สูงอายุในภูมิภาคมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ในการสร้างประชาคมอาเซียนต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การสร้างความเชื่อมโยงและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอาเซียนต้องคำนึงถึงการรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพภายในภูมิภาคเพื่อให้การไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนเป็นอย่างราบรื่นและมีความเป็นเอกภาพซึ่งไทยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนและส่งเสริมการลงทุนต่อเนื่องของไทยในประเทศเพื่อนบ้านในลักษณะ 1+1 เพื่อเชื่อมโยงฐานการผลิตร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อาเซียนจำเป็นต้องมีมาตรการรับมือกับสิ่งท้าทายและผลกระทบเชิงลบจากความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เช่นปัญหาการค้ามนุษย์อาชญากรรมข้ามชาติรูปแบบใหม่ ปัญหายาเสพติดการเคลื่อนไหวของกลุ่ม/ขบวนการที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงโดยกระชับความร่วมมือด้านการบริหารจัดการชายแดนที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลของทุกประเทศสมาชิกอาเซียนการแลกเปลี่ยนข่าวกรองการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดในการป้องกันสกัดกั้นและระงับยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายการบริหารจัดการชายแดนและการรับมือกับภัยคุกคามแบบเก่าและใหม่ โดยเสนอให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาบัตรผ่านแดนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจัดระบบการผ่านแดนของประชาคมอาเซียนที่มีประสิทธิภาพและประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าแม้อาเซียนจะเผชิญกับสิ่งท้าทายในรูปแบบต่างๆแต่อาเซียนจะมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์เพื่อความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียน เพื่อให้ประชาคมอาเซียนพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนมีประชาชนเป็นศูนย์รวมโดยไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง

Advertisement

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีลงนามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยความเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค (One ASEAN, One Response) เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีการดำเนินการร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวในการตอบโต้ภัยพิบัติอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิผลทั้งในและนอกภูมิภาค และการประกาศแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ค.ศ. 2025 และแผนงานข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 28 หน้านี้ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ Visit ASEAN@50 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของประเทศสมาชิกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ใน ปีพ.ศ. 2560 อันเป็นวาระครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ASEAN) ซึ่งจะรวบรวม 50 เทศกาลและ 50 ประสบการณ์เดินทางท่องเที่ยวที่น่าประทับใจในประเทศสมาชิกส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในอาเซียนและเป็นการประชาสัมพันธ์การเป็นจุดหมายปลายทางเดียวกันของอาเซียนในการนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งเรื่องวัฒนธรรมธรรมชาติและความมีมิตรไมตรีของผู้คนในภูมิภาคนี้ผ่านกิจกรรมเทศกาลรูปแบบต่างๆทั้งภายในประเทศสมาชิกและกิจกรรมระดับนานาชาติ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image