สกู๊ปหน้า 1 : ศึกสภาปะทุอีก ชำแหละ พ.ร.ก. กู้ 5 แสนล้าน

สกู๊ปหน้า 1 : ศึกสภาปะทุอีก ชำแหละ พ.ร.ก. กู้ 5 แสนล้าน

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวางโปรแกรมพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท หรือ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย 3 แผนงาน คือ 1.แผนงานแก้ไขปัญหาการระบาดระลอกใหม่ 30,000 ล้านบาท 2.แผนงานช่วยเหลือเยียวยาหรือชดเชยให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ 300,000 ล้านบาท และ 3.แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 170,000 ล้าน ระหว่างวันที่ 9-10 มิถุนายนนี้

คณะกรรมการประสานงานทั้งสองฝ่าย คือ วิปรัฐบาล และ วิปฝ่ายค้าน จัดสรรเวลาอภิปรายกันฝ่ายละ 9 ชั่วโมง พร้อมกับจัดขุนพลขึ้นมาอภิปรายสนับสนุนแนะนำ และคัดค้านการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ฝั่งรัฐบาลจัด 25 ส.ส.อภิปรายสนับสนุนและเสนอแนะแนวทางการใช้เงิน ขณะที่ ฝ่ายค้านส่ง 46 ส.ส.ชำแหละถึงเนื้อหาสาระและคัดค้านการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสน ล้านบาท แบบตีเช็คเปล่า 

ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหา สารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) อธิบายถึงแนวทางการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า พรรค พท.เตรียม 35 ส.ส.ไว้อภิปรายแล้ว จะมุ่งอภิปรายในประเด็นที่ พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่มีรายละเอียดการใช้จ่ายเงินที่ชัดเจน เหมือนตีเช็คเปล่า สภาก็ตรวจสอบไม่ได้ แบบนี้พรรคเพื่อไทยไม่เห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับนี้ และ พ.ร.ก.ฉบับนี้เป็นการเขียนไว้กว้างๆ โดยเอาไปใช้ด้านสาธารณสุข 3 หมื่นล้านบาท เยียวยาประชาชน 3 แสน ล้านบาท ใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 1.7 แสนล้านบาท แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลยว่าเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง เป็นการจัดงบที่ไม่เหมาะสม ทำไมไม่จัดงบให้ด้านสาธารณสุขให้มากกว่านี้

Advertisement

ขณะเดียวกันเมื่อปีที่แล้วรัฐบาล ขอเงินกู้ไป 1 ล้านล้านบาท ขอไปใช้ด้านสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ของบไปเป็นปีแล้วการจัดซื้อวัคซีนอยู่ไหน จึงอยากให้เอาสัญญามาดูว่าวัคซีนซื้อราคาเท่าไหร่ ซื้อกับบริษัทอะไรบ้าง ส่งมอบอย่างไร เพราะวันนี้ประชาชนเดือดร้อนไม่มีวัคซีนฉีด คนติดเชื้อ คนตายทุกวัน แสดงให้เห็นว่ากู้เงินไปแต่บริหารจัดการไม่ได้

ขณะที่ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ชี้ถึงแนวทางการอภิปราย ร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า การ อนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงินในครั้งนี้เป็นเพียงการให้โอกาสต่อลมหายใจให้กับรัฐบาลชุดนี้ พรรค ก.ก.ทั้ง 11 คน จะอภิปรายว่าไม่สามารถตีเช็คเปล่าให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้อีกแล้ว หากรัฐบาลนี้ยังคงบริหารต่อไปเชื่อว่าในปีงบประมาณหน้า รัฐบาลชุดนี้ก็จะกลับมายื่น พ.ร.ก.เพื่อให้สภาพิจารณา กู้เงิน ซึ่งจะเป็นภาระให้กับประชาชนต่อไป ดังนั้นพรรค ก.ก.จึงมีมติไม่เห็นชอบ พ.ร.ก. ฉบับนี้

หลายคนอาจจะกังวลว่าหาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านไม่ผ่าน จะมีงบประมาณในการเยียวยาประชาชนหรือไม่ ต้องเรียนว่า พ.ร.ก. 5 แสนล้าน คือ การหาเงินเข้ามาเพื่อช่วยในการใช้จ่ายของรัฐบาลในช่วงที่เงินขาดมือขณะนี้ แต่สิ่งที่รัฐบาลเลือกทำคือการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท มีกระดาษมาเสนอสภาเพียง 5 แผ่น ไม่มีแผนงานและเนื้อหารายละเอียด ตนคิดว่าคงจะซ้ำรอยเดิมกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

Advertisement

ที่ผ่านมา ที่เป็นเพียงแผนกว้างๆ เพราะ พ.ร.ก. 2 ฉบับมีกระบวนการพิจารณาเหมือนกัน แต่ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านแย่กว่าตรงที่ 3 แผนงานในการเยียวยาฟื้นฟูสามารถใช้เงินผสมกันได้หมด เท่ากับว่าเป็นการตีเช็คเปล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์อีกแล้ว

ดังนั้น สิ่งที่ควรจะเป็นคือ เมื่อกู้เงินมาแล้วควรจะทำเป็น พ.ร.บ.งบประมาณกลางปี โดยมีเนื้อหารายละเอียดโครงการ หน่วยงานที่รับผิดชอบ เป้าหมายและตัวชี้วัดต่างๆ ให้ชัดเจน ให้สภาได้รู้ว่าเงิน 5 แสนล้าน จะเอาไปใช้อะไร เงื่อนเวลาแบบใด และผลสัมฤทธิ์ที่คาดหวังคืออะไร ถึงจะเชื่อมั่นได้ว่าคนที่จะมาบริหารประเทศไม่ว่าจะรัฐบาลใดก็ตามจะแก้ไขปัญหาได้จริงๆ

ส่วนฟากฝั่งรัฐบาล กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอแนะถึงการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทว่า เงินกู้ส่วนนี้ประกอบด้วย 3 แผนงาน คือ 1.แผนงานแก้ไขปัญหาการระบาดระลอกใหม่ 30,000 ล้านบาท 2.แผนงานช่วยเหลือเยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนและ ผู้ประกอบการ 300,000 ล้านบาท และ 3.แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 170,000 ล้านบาท พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่ต่างจาก พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลนำมาใช้ในปีที่ผ่านมา

ดังนั้น คำถามสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะพิจารณา พ.ร.ก. 5 แสนล้านบาท คือ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านมามีปัญหาอะไรบ้างที่ควรจะป้องกันไม่ให้เกิด ขึ้นกับ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ได้แก่ การใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ล่าช้าใช้ไม่หมด และส่วนที่ใช้ไปนั้นไม่ได้แก้ปัญหาตาม เป้าหมายที่กำหนด คือการป้องกันและแก้ไขการระบาดของโควิด-19 ที่จัดหาวัคซีนล่าช้า

ดังนั้น ประเด็นที่ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่ต้องพิจารณาคือจะสามารถแก้ไขเรื่องความรวดเร็วและทั่วถึงของการช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการที่เดือดร้อน การจัดหาวัคซีนจะรวดเร็วและมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการตามสถานการณ์การแพร่ระบาดหรือไม่

และสุดท้ายคือการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะสามารถกำหนดแนวทางและเป้าหมายการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้สำเร็จผ่านโครงการอะไร ในเรื่องอะไร แค่ไหน ปัญหาสำคัญของ พ.ร.ก.เงินกู้ทั้ง 1 ล้านล้านบาท และ 5 แสนล้านบาท ไม่ได้อยู่ที่ว่าควรหรือไม่ควรกู้ เพราะทุกคนต่างเข้าใจถึง ความจำเป็นที่จะต้องกู้เพื่อแก้ไขวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น แต่ปัญหาอยู่ที่ขีดความสามารถทางการบริหารของรัฐบาลว่าจะสามารถใช้ เงินกู้นี้ให้ตรงเป้า รวดเร็ว โปร่งใส และเห็นผลสำเร็จ มากน้อยแค่ไหน

ด้าน วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชี รายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ระบุว่า วิปรัฐบาลมีความพร้อมการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ในวันที่ 9 มิถุนายน โดยพรรคร่วมรัฐบาลมีมติว่าจะต้องผ่าน พ.ร.ก.ฉบับนี้และโหวตไปในทิศทางเดียวกัน พรรค พปชร.ได้ส่งรายชื่อผู้ที่จะอภิปรายมาทั้งหมด 12 คน รวมฝ่ายรัฐบาลด้วยแล้วมีประมาณ 25 คน โดยเวลาในการอภิปรายจะแบ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล 9 ชั่วโมง และฝ่ายค้าน 9 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านประกาศแล้วว่าจะไม่ให้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ผ่านนั้น ก็เหมือนกับ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่ประกาศว่าจะไม่ให้ผ่านแต่ก็ผ่าน

ส่วนเนื้อหาสาระและผลการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะดุเดือดเพียงใด ฝ่ายไหนจะสอบตก สอบผ่านเช่นไร คงต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image