คสช.โต้’จตุพร’ให้นักศึกษาวิชาทหารรณรงค์ให้ประชาชนออกมาลงประชามติร่างรธน.สามารถทำได้ตามครรลองประชาธิปไตย ไม่ได้ชี้นำผลอย่างใด ขออย่าติดภาพมองแต่มุมการเมือง
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวถึงกรณีหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน สนับสนุนให้นักศึกษาวิชาทหารเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนทำความเข้าใจและออกมาใช้สิทธิ อาจทำไม่ได้เพราะเป็นการชี้นำนั้น ว่า ไม่อยากให้มองติดภาพของการเมืองอย่างเดียว เพราะเรื่องของการออกมาใช้สิทธิเป็นธรรมเนียมหลักของประชาธิปไตยแต่ส่วนจะเลือกอะไร ก็คงเป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว การร่วมรณรงค์จึงเป็นเรื่องปกติตามครรลองของประชาธิปไตย ที่คนในสังคมทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ เพราะไม่ใช่การไปเพื่อชี้นำผลให้เลือกอย่างหนึ่งอย่างใด
“รัฐบาลและ คสช. ไม่ได้เร่งให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ หรือบังคับให้ใครประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญอย่างที่บางคนเข้าใจ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญหลายๆคนมองว่าเป็นเหมือนเรื่องกฎหมายกึ่งวิชาการ ถ้าไม่ตั้งใจหรือมีสมาธิพอ อาจทำให้รับรู้ได้ไม่เต็มที่หรืออาจเข้าใจได้ไม่ครบถ้วน ขนาดว่าบางคนได้ศึกษาบ้างแล้วแต่เห็นยังมีเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ก็มีทางผู้เกี่ยวข้อง จึงอยากเน้นให้ทุกคนได้มีโอกาสศึกษาก่อน เพราะที่ผ่านมาเริ่มพบว่ามีบางคนบางกลุ่มมีความพยายามบิดเบือนในเนื้อหาหาจุดอ่อนมาติแบบหลวมๆ หวังสร้างปั่นกระแสในทางการเมือง” พ.อ.วินธัยกล่าว
ทั้งนี้ พ.อ.วินธัยกล่าวอีกว่า เท่าที่ติดตามข้อมูลมา กลุ่มผู้เสนอความเห็นพบมีบางกลุ่มที่เจตนาไม่ชัดเหมือนตั้งธงจะคว่ำอย่างเดียว บางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเจตนาอยากปรับแก้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมและเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป ส่วนที่มีการใช้คำว่าเป็นประชามติลวงโลก อาจเป็นหนึ่งในวาทกรรมของกลุ่มที่มีตั้งธงไว้ในใจอยู่แล้ว เชื่อสังคมคงรู้เท่าทัน การเสนอความเห็นเพื่อก่อให้เกิดพัฒนาการ สามารถทำได้มีหลายความเห็นได้เจาะเป็นประเด็นๆ ไป ไม่ใช่เหมารวมมาลอยๆ โดยไม่มีรายละเอียดและคำอธิบายที่เป็นสากลเพียงพอ
นอกจากนี้ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่ามีหลายคนอาจยังไม่ได้ศึกษาโดยละเอียด จึงอยากเชิญชวนให้ศึกษา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือปลุกปั่นให้ใคร พร้อมยืนยันว่า คสช.ไม่ได้มองความเห็นต่างเป็นภัยคุกคาม เป็นเรื่องของเจตนาในการแสดงออก เพราะต้องไม่ทำให้สังคมสับสน เหมือนพยายามเอาเรื่องของ รธน.มาผสมเคลื่อนไหวเพื่อมุมทางการเมืองด้วย