‘ครม.’ เล็งเยียวยาเพิ่ม หลัง ‘เราชนะ-ม33 เรารักกัน’ หมุนเวียนใน ศก.แล้วเกือบ 3 แสนล้าน

‘ครม.’ เล็งเยียวยาเพิ่ม หลัง ‘เราชนะ-ม33 เรารักกัน’ หมุนเวียนใน ศก.แล้วเกือบ 3 แสนล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยเพิ่มวงเงินเยียวยา 2,000 บาทต่อคน ในโครงการ ”เราชนะ” สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มที่มีแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง และโครงการ “ม33 เรารักกัน” ทั้ง 2 โครงการนี้ประชาชนยังสามารถใช้จ่ายได้ถึง 30 มิถุนายนนี้

โดยโครงการ ”เราชนะ” มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิทั้งสิ้น 33.1 ล้านคน แยกเป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้มีแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง 8.4 ล้านคน กลุ่มผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบเป๋าตัง 8.6 ล้านคน กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ 2.4 ล้านคน ทั้งนี้ เป็นผู้ที่ใช้จ่ายครบวงเงินตามสิทธิในโครงการแล้วมีจำนวน 17.6 ล้านคน โดย ณ วันที่ 1 มิ.ย.2564 โครงการ “เราชนะ” ทำให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วมูลค่ากว่า 257,997 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ให้บริการได้รับประโยชน์มากกว่า 1.3 ล้านร้านค้าและกิจการ แยกเป็นมูลค่าการใช้จ่ายในร้านอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็นร้อยละ 19.1 ของมูลค่าการใช้จ่ายทั้งหมด ร้านธงฟ้าคิดเป็นร้อยละ 34.4 ร้าน OTOP คิดเป็นร้อยละ 4.1 ร้านค้าทั่วไปและอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 40.4 ร้านค้าบริการคิดเป็นร้อยละ 1.9 และขนส่งสาธารณะคิดเป็นร้อยละ 0.1

โครงการ “ม33 เรารักกัน” มีผู้ได้รับสิทธิรวมทั้งสิ้น 8.14 ล้านคน มียอดใช้จ่ายสะสมแล้ว ณ วันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา กว่า 39,317 ล้านบาท ผ่านร้านค้าทั้งสิ้น 1.07 ล้านร้านค้า ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการเพิ่มกำลังซื้อให้กับกลุ่มเป้าหมายจำนวนกว่า 41 ล้านคน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ โครงการ “เราชนะ” และ “ม33 เรารักกัน” มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในเศรษฐกิจแล้ว 297,314 ล้านบาท

Advertisement

นายอนุชากล่าวว่า รัฐบาลมีมาตรการอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันเพื่อช่วยผู้ประกอบการ เช่น มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ ซึ่งรัฐสภาได้ผ่านพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 และ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน วงเงินรวม 350,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อวงเงิน 250,000 ล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ 100,000 ล้านบาท เพื่อป้องกันปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของภาคธุรกิจ เสริมสภาพคล่องสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME ) ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ติดตามการแพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์เศรษฐกิจตลอดเวลา เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือเยียวยา มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีออกมาในครึ่งปีหลังนี้หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image