ปชป. ลั่น ไม่มีใครโง่ทำ จ.ม.ฝากเด็กเข้าเรียน จ่อดำเนินคดีคนปลอมถึงที่สุด

“ราเมศ” ชี้ ปชป. ไม่มีใครโง่ส่งจดหมายฝาก น.ร.เข้าเรียน ยันไม่มีนโยบายเช่นนี้ ด้าน “สุทธิ” เผย แจ้งความตั้งแต่ 3 มิ.ย.แล้ว ที่นิ่งเพราะรอคนเปิดเกมออนไลน์ พร้อมจี้ ตร. เร่งหาตัวคนผิดมาลงโทษ

กรณีที่เพจ นักเรียนเลว ได้โพสต์เอกสารถึงผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง เพื่อขอความอนุเคราะห์รับนักเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลของพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 พร้อมระบุข้อความด้วยว่า กำลังได้รับการพิจารณาเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในคราวปรับคณะรัฐมนตรีคราวต่อไปแทน เพราะชราภาพมากแล้ว พร้อมทั้งไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นการพาดพิงถึงนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรค ปชป. และที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 มิถุนายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอเรียนว่าไม่เป็นความจริง เป็นการทำเอกสารปลอมทั้งฉบับ เป็นการใช้ลายเซ็นปลอมโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำไปใส่ในเอกสาร เป็นการใช้ตราพรรคที่ไม่ถูกต้องตามข้อบังคับพรรค และหาตราพรรคมาจากอินเตอร์เน็ตมาใส่เรียงร้อยเป็นหนังสือฉบับนี้ แค่ขึ้นต้นหัวเรื่องที่บอกว่าขอความอนุเคราะห์รับนักเรียนที่อยู่ในการดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ใช่ความจริงแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ มีหน้าที่ดูแลนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน มีหน้าที่ดูแลเด็กและเยาวชนที่เป็นนักเรียน นักศึกษาทั่วทั้งประเทศ ไม่มีใครที่จะมีสิทธิพิเศษกว่าใครที่จะมาอยู่ในการดูแลพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในหนังสือขัดแย้งกันหลายอย่าง ถามว่า นายสุทธิเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่โดยตรง และไม่มีความจำเป็นที่จะไปฝากให้ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือโรงเรียนใดรับนักเรียนเข้าศึกษา

นายราเมศกล่าวต่อว่า พรรคมีนโยบายชัดเจนว่าเราดูแลนักเรียนเท่าเทียมกัน ฉะนั้นการปลอมเอกสารทั้งฉบับมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตนเป็นฝ่ายกฎหมายของพรรค เมื่อนายสุทธิทราบว่ามีคนใส่ร้ายก็ได้ประสานมายังตนทันที ซึ่งเอกสารลงไว้ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม แต่หนังสือมาถึงโรงเรียนต่างๆ วันที่ 30 พฤษภาคม และผู้อำนวยการโรงเรียนรับทราบหนังสือฉบับนี้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน และเมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบเรื่องก็ได้มีการแจ้งมายังนายสุทธิ เนื่องจากไม่เชื่อว่านายสุทธิจะทำเช่นนั้น

Advertisement

นายราเมศกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ทีมงานกฎหมายของนายสุทธิได้ไปขอรวบรวมเอกสารจริงจากโรงเรียนต่างๆ ไว้และมาพบตน ก่อนจะมีการไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ทั้งนี้ได้ทราบมาก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าว เมื่อได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์แล้ว เอกสารทั้ง 10 ฉบับที่ส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจบางซื่อ ก็ได้มีการส่งเอกสารไปตรวจสอบลายนิ้วมือ และพบว่ามีการส่งเอกสารในพื้นที่สามเสน ก่อนจะติดต่อไปยังไปรษณีย์เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดว่าใครที่กล้าหาญทำผิดกฎหมาย ใส่ร้ายบุคคลอื่น ในส่วนของการดำเนินการเอาผิดกับบุคคลต่างๆ แบ่งเป็น 2 กรณี คือกรณีของนายสุทธิซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้แล้ว โดยจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ฐานปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับ ซึ่งเป็นกรณีส่วนตัว แต่เมื่อปรากฏเป็นข่าวขึ้นเมื่อวานนี้ นายสุทธิเกิดความเสียหายมาก เนื่องจากมีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ใช้ทุกช่องทางในการใส่ร้าย โจมตีให้นายสุทธิและพรรคประชาธิปัตย์เกิดความเสียหาย

“โดยใช้เอกสารนี้เป็นเอกสารขั้นต้น นายสุทธิจึงได้ตั้งทีมทนายความในการดำเนินการเรื่องนี้โดยจะมีการเก็บรวบรวข้อมูลในโซเชียลมีเดียและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อบุคคลที่นำเอกสารที่ปลอมนำไปสื่อสารต่อ และในส่วนของสำนักข่าวที่มีการนำเสนอข่าวในลักษณะเริ่มต้นในการชี้บ่งบอกว่าเอกสารแผ่นนี้เป็นเอกสารจริง ทั้งนี้หากสื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เอกสารฉบับนี้ไม่เป็นความจริง และมีการสัมภาษณ์เพื่อให้เห็นว่ามีการนำเอกสารปลอมตัวนี้เป็นข่าวเท็จไปปล่อยในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เห็นว่าสังคมขณะนี้ใช้กระบวนการแบบนี้อยู่ ในกรณีเช่นนี้ต้องให้ความเป็นธรรม” นายราเมศกล่าว

นายราเมศกล่าวว่า สำหรับในส่วนของพรรค ตนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกฎหมายเพื่อที่จะพิจารณาเรื่องนี้และเสนอให้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่จัดทำหนังสือฉบับนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายเรื่องนี้ ไม่มีใครโง่ทำเช่นนี้ แค่จั่วหัวเรื่องว่า ขอความอนุเคราะห์รับนักเรียนที่อยู่ในการดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ ตนว่าคนทำเขาคงคิดไม่ได้ หาวิธีการอื่นหากจะต่อสู้ทางการเมือง เอาชนะใจประชาชนมาต่อสู้กัน อย่าใช้วิธีการที่สกปรกเช่นนี้ และสังคมไม่ควรนำข่าวเท็จ ข่าวปลอมไปขยายผลต่อ โลกเปลี่ยนไป ใช้เวลาไม่กี่วินาทีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนคนหนึ่งมากมายมหาศาล ต้องเรียกร้องว่าการใช้สื่อโซเชียลต้องให้มีความระมัดระวัง

Advertisement

ด้าน นายสุทธิ กล่าวว่า ยืนยันว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารปลอมแปลงทั้งฉบับ มีการแอบอ้างโลโก้พรรค รูปถ่าย ลายเซ็นและเนื้อหาทำให้ได้รับความเสียหาย เมื่อตอนนี้รับแจ้งจากทางโรงเรียน จึงได้ไปขอหนังสือดังกล่าวเพื่อนำไปใช้ประกอบการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการติดตามผู้กระทำความผิดโดยเร็ว หากได้รับเอกสารเพิ่มเติมอีกก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมเตือนไปยังผู้ที่ลงข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ให้สื่อออนไลน์ต่างๆ ว่าเป็นข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตนจะดำเนินคดีทุกรายเพราะได้รับความเสียหาย

“ผมไม่เข้าใจว่าผู้ที่กระทำอย่างนี้มีความตั้งหวังอะไร เพราะเท่าที่อ่านจากเนื้อหาสาระ เรื่องการฝากเด็กเข้าเป็นเพียงแค่การจั่วหัวเท่านั้น แต่เรื่องอื่นน่าจะเป็นการเสี้ยมให้ผมเกิดปัญหากับบุคคลอื่นด้วย ที่ผ่านมาหลังจากไปแจ้งความแล้ว ผมนิ่งเฉย เพราะต้องการรอให้ผู้กระทำผิดงั้นเปิดเกมเผยแพร่ทางออนไลน์ก็จะทำให้เห็นตัวผู้กระทำความผิดได้ชัดขึ้น ซึ่งเมื่อวานก็เริ่มเปิดเกมขึ้นมาของผู้ไม่หวังดี ผมยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร เรื่องนี้ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ทั้งลายนิ้วมือต่างๆ ที่ปรากฏในเอกสารด้วย” นายสุทธิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image