‘เรืองไกร’ ชี้ออก พ.ร.ก.เหมือนตีเช็คเปล่า บอกทำมาทุกยุคสมัย ไม่ใช่เพิ่งทำรัฐบาลนี้
เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 14 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวว่า กมธ.หลายคนให้ความสนใจเรื่องหนี้สาธารณะ ประเด็นอัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี และสถานะทางการเงิน การคลัง ของประเทศไทย สืบเนื่องจากการอภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินโดยการออกเป็น พ.ร.ก.หลักๆ มี 5 ฉบับ
นายเรืองไกรกล่าวว่า ได้แก่ ปี 2554 สมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูสถาบันการเงิน 2.ปี 2552 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ มีการออก พ.ร.ก.กู้เงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท 3.ปี 2555 สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ มีการออก พ.ร.ก.น้ำ วงเงินไม่เกิน 3.5 แสนล้านบาท ซึ่ง กมธ.ต้องถามสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เพราะ พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ เป็นเงินกู้ที่ไม่มีรายละเอียด เพราะนำมาใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินรวม 1.53 ล้านล้านบาท
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า ส่วนสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เมื่อปี 2563 มีการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท สปน.ชี้แจงว่าขณะนี้ใช้เกือบหมดแล้ว และล่าสุดรัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท รวม 2 ฉบับ วงเงิน 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งทั้ง 5 ฉบับ ตัวเลขไม่ต่างกัน ทั้งนี้ การออกเป็น พ.ร.ก.เหมือนการตีเช็คเปล่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ใช่เพิ่งออกแค่สมัยนี้ และตามกฎหมายแล้วสามารถทำได้ ขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่าเป็นอำนาจของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย นอกจากนี้ กมธ.ยังให้ความสนใจเรื่องการคำนวณหนี้สาธารณะต่อจีดีพีว่าจะใช้ตัวเลขไหนกันแน่ ระหว่างหนี้ที่เกิดขึ้นแล้วหรือหนี้ที่กำลังจะเกิด ซึ่งปี 2564 มีเงินที่รัฐบาลเก็บไม่เข้าเป้าอีกตรงนี้จะทำอย่างไร คงต้องให้ สปน.ชี้แจงต่อไป