กมธ.งบฯ ค้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แนะตั้งองค์กรกลาง เก็บภาษีอย่างเป็นระบบ

กมธ.งบฯ ค้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า แนะตั้งองค์กรกลาง เก็บภาษีอย่างเป็นระบบ

เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 14 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าว่า กมธ.ได้พิจารณางบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง 3 หน่วยงาน คือ 1.กรมศุลกากร งบประมาณทั้งสิ้น 4,095,258,400 บาท 2.กรมสรรพสามิต งบประมาณทั้งสิ้น 2,194,317,000 บาท 3.กรมสรรพากร งบประมาณทั้งสิ้น 9,569,318,900 บาท

นายสรวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของกรมสรรพสามิต กมธ.หารือเกี่ยวกับแนวทางในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศ ซึ่งมี กมธ.บางคนเห็นว่าไม่ควรอนุญาตให้มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศ เพราะในหลายประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ประเทศในแถบยุโรป ได้มีการประกาศห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีปัญหาด้านสุขภาพตามมา และรัฐบาลต้องนำงบประมาณของประเทศมาใช้รักษาปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่จำนวนมาก โดยโรคที่เกิดจากผลของบุหรี่ไฟฟ้า เช่น โรคถุงลมโป่งพอง และโรคทางเดินหายใจ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตต่อปีจำนวนมาก

นายสรวุฒิกล่าวต่อว่า ในการพิจารณางบประมาณของกรมสรรพากร ในเรื่องของการพัฒนาระบบการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกรรมาธิการบางคนให้ข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานควรให้ความสำคัญกับ โครงสร้างพื้นฐานของระบบสารสนเทศ (ICT) และควรปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการประชาชน นอกจากนี้ ควรมีการจัดตั้งองค์กรกลางเพื่อบูรณาการระบบการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ โดยองค์กรดังกล่าวต้องมีความเป็นอิสระ ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองหรือกลุ่มบุคคลใด โดยรวมทั้ง 3 หน่วยงาน คือ กรมศุลกากร สรรพสามิต กรมสรรพากร ซึ่งทางรัฐบาลควรไปหารือต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image