‘จิรายุ’ เตือน ขรก.ถอดชฎาก่อนแจง กมธ.งบ โวฝ่ายค้านทำงานรีดไขมันงบกระทรวงโหดระดับ 5

‘จิรายุ’ เตือน ขรก. ถอดชฎาก่อนแจง กมธ.งบ โวฝ่ายค้านทำงานรีดไขมันงบกระทรวงโหดระดับ 5 ซัดคิดอะไรไม่ออกก็ตั้งงบบูรณาการ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวถึงการประชุม กมธ. ว่า ในส่วนของซีกฝ่ายค้านใน กมธ.ชุดนี้ ในปีนี้จะทำงานไม่เหมือนเดิม เพราะจะเข้มข้นมากขึ้นและจะโหดในระดับ 5 เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาในการชี้แจงของส่วนงานราชการนั้น หลายคนมาชี้แจงในที่ประชุม กมธ. ยังมีเจ้ายศเจ้าอย่างทั้งๆ ที่ตนเองมาขอเงินภาษีของประชาชน เพราะฉะนั้น กมธ.ซีกฝ่ายค้าน เมื่อวานนี้ก็จัดว่าดุเดือดพอสมควร ซึ่งมี กมธ.ถามถึงหน่วยงานกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารหนี้สาธารณะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับนโยบายและวิสาหกิจว่าเป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแลถึงงบประมาณแผ่นดิน และมาจากภาษีของประชาชนนั้น ท่านได้ทำงานคุ้มค่ากับสิ่งที่ท่านมาขอหรือไม่ โดยการประชุมของเมื่อวานนั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่ายังมีผู้อำนวยการระดับสูง ทั้งเป็นอดีตรองปลัด อดีตอธิบดีที่ได้มานั่งเป็นคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับหนี้สาธารณะยังใช้คำพูดที่ระบุว่า “ดิฉันไม่ใช่นักการเมือง” ซึ่งนี่คือระบบราชการไทย

นายจิรายุกล่าวว่า ขอเตือนว่าข้าราชการท่านใดไม่ว่าจะยศฐาบรรดาศักดิ์มากน้อยขนาดไหน เมื่อท่านเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ. ท่านต้องตั้งสติมาจากบ้านว่าจะต้องชี้แจงด้วยเหตุและผล ไม่มีเจ้ายศ ไม่มีเจ้าอย่าง โดยวันแรกของการประชุม ได้เสนอตัดงบไปแล้วหนึ่งหน่วยงาน ในส่วนของกรมที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นงบบูรณาการ จนทุกวันนี้หลายหน่วยงานได้ไปแก้ไขงบในส่วนงานบูรณาการแล้ว เพราะงบในส่วนนี้เหมือนงบที่คิดอะไรไม่ออกก็ตั้งงบบูรณาการขึ้นมา และเป็นการทำงานของหลายหน่วยงานที่ซับซ้อนกันไปมา ดังนั้นฝ่ายค้านเราทำงานอย่างแข็งขัน เต็มที่เรียกว่าโหดระดับ 5 เพราะฉะนั้นขอเตือนไม่ว่าท่านจะเป็นใครจะมียศฐาบรรดาศักดิ์ขนาดไหน จะเป็นปลัด รองปลัด อธิบดีเมื่อท่านเข้ามาท่านต้องเตรียมที่จะชี้แจงให้กับผู้แทนของประชาชนที่เขากลั่นกรองโดยงบประมาณ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในการรีดงบประมาณในครั้งนี้ เชื่อว่าปีนี้จะหนักหนาสาหัสและจะรีดไขมันของกระทรวง ทบวง กรมได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ยังพิจารณาถึงมาตราที่ 1 ที่ยังอยู่ในส่วนของกระทรวงการคลัง ซึ่งก็ยังมีอีก 20 กว่ากระทรวงเชื่อว่าจะเพิ่มทวีคูณในการทำงานของฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบเงินประมาณมากขึ้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image