‘บิ๊กป้อม’ นั่งเก้าอี้เดิม เพิ่มเติม ‘สุริยะ-สันติ-วิรัช-ไพบูลย์’ นั่งรองหัวหน้า ด้าน ‘ธรรมนัส’ ยึดเก้าอี้เลขาฯ ‘สมศักดิ์’ จ่อ ปธ.ยุทธศาสตร์ฯ
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะมีแกนนำพรรคและ ส.ส.พรรคเกือบทั้งหมด รวมทั้ง ส.ส.กลุ่มสามมิตร และ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ เข้าร่วมประชุม และสมาชิกจาก จ.นครราชสีมา 120 คน และ จ.ขอนแก่น 250 คน
ส่วนแนวทางการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค จะลาออกให้ กก.บห.พรรคพ้นสภาพ เปิดทางให้ที่ประชุมเลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ ซึ่งที่ประชุมจะกำหนดจำนวนกรรมการบริหารพรรคก่อน จากนั้นเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก และนายทะเบียน ตามลำดับ โดยจะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม
ขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค จะเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากเดิมเป็นรองหัวหน้าพรรค ไปเป็นเลขาธิการพรรค แทน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่ตำแหน่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นเหรัญญิกพรรค และ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค
ส่วนตำแหน่งอื่น เช่น รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการพรรค ซึ่งเป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคแต่งตั้ง คาดว่า พล.อ.ประวิตรจะพิจารณาแต่งตั้งในภายหลัง ขณะที่รองหัวหน้าพรรคจากเดิม 10 คน จะปรับลดลงเหลือ 4-5 คน ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ยังอยู่ในกรรมการบริหารพรรค และจะได้รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างพรรคดังกล่าวเป็นที่ตกลงกันได้ของแกนนำพรรคทุกกลุ่ม ในส่วนของรายชื่อ กก.บห.แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมี นายจักรพันธ์ พรนิมิตร และ นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. เข้ามาเป็น กก.บห.แทน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ต้องคดีชุมนุมกลุ่ม กปปส.จนต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีเท่านั้น
