“มีชัย” แจงการตั้งพรรคการเมืองต้องไม่ง่าย-ยากเกินไป เปรยเอาด้วยรีเซตสมาชิกพรรค ไม่กังวล สนช. บี้ ติดดาบ ส.ว.ชงชื่อนายกฯ เชื่อผลตัดสินศาล รธน.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 กันยายน ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วมกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสอบถามแนวทางจัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองตามที่กกต.เสนอว่า จะซักถาม กกต.ว่าตัวกฎหมายเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างไร มุ่งหวังอะไรบ้าง การพูดคุยจะทำความเข้ากันได้ง่าย และไม่เข้าใจผิด โดยเบื้องต้นวิธีการจัดตั้งพรรคมีการเปลี่ยนแปลง หาก กกต.อธิบายแล้ว กรธ.เห็นว่าดี ก็จะช่วยทำให้เป็นผล ส่วนที่กังวลกันกรณีให้ กกต.ควบคุมนโยบายของพรรคการเมืองนั้น ตนยังไม่เห็นว่าเขียนไว้อย่างไร ทั้งนี้ เชื่อว่าคงไม่ไปไกลขนาดกำหนดว่า หากแถลงนโยบายแล้วทำไม่ได้หมดต้องโดนลงโทษ สำหรับแนวทางที่จะทำให้พรรคการเมืองตั้งยาก ตนมองว่า หากให้ตั้งยากไป คนที่มาใหม่ก็ตั้งลำบาก แต่ถ้าง่ายไป คนที่ไม่คิดทำงานการเมือง ก็จะตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเอาเงินจาก กกต. ดังนั้น จึงต้องให้มีความพอดี อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงกรณีการศึกษาระบบการเลือกตั้งของประเทศอินเดีย ว่า กรธ.ไม่ได้ถึงขนาดว่าส่งคนไปที่ประเทศอินเดีย เพียงแค่ศึกษาด้วยการเปิดเว็บดูเท่านั้น
เมื่อถามถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับสมาชิกพรรคการเมืองในกฎหมายลูก นายมีชัยกล่าวว่า ขึ้นกับว่า อยากจะให้พรรคการเมืองยึดโยงกับประชาชนมากขนาดไหน เราอยากให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ก็ต้องมีการกำหนดเกี่ยวกับสมาชิกพรรคพอสมควร เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปมีบทบาทกับพรรคการเมือง แต่ต้องทำแค่ไหนถึงจะให้เป็นไปได้ต้องดูอีกที ตนเชื่อวาการสัมมนาที่จะจัดได้ใน 1-2 สัปดาห์หน้า กรธ.น่าจะได้ฟังความเห็นเพิ่มเติมจากหลายฝ่ายด้วย
เมื่อถามว่าการเรียกเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถามพ่วงประชามติจากแม่น้ำ 3 สาย ของศาลรัฐธรรมนูญ นายมีชัยกล่าวว่า กรธ.ไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม ศาลเรียกจากของคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ของ กรธ.ศาลบอกแต่รับไว้พิจารณาแล้ว คงตอบแทนศาลไม่ได้ว่า จะเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติมจาก กรธ. อย่าไปคาดการณ์ หากศาลอยากได้อะไรคงบอกมา นอกจากนี้ ตนยังไม่กังวล กรณีที่ สนช.จะชี้แจงเอกสารเพิ่มเติม เพื่อเรียกร้องให้ ส.ว.มีสิทธิเสนอชื่อนายกฯด้วย ต้องว่ากันตรงไปตรงมา ศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไรก็ต้องจบ ในเมื่อรัฐธรรมนูญมอบความวางใจให้ศาลรัฐธรรมนูญ เราก็ต้องไว้ใจ และเชื่อว่าเมื่อศาลวินิจฉัยออกมา จะมีการให้เหตุผลประกอบด้วย
