‘สุทิน’ ไม่ติดใจ ปมไม่บรรจุญัตติ 256 เผยเตรียมวัดใจ ครม.ประชามติ ชี้รอฟังพรรคร่วม รบ.อภิปราย ก่อนลงมติแก้ รธน.
เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ว่าสำหรับการประชุม พ.ร.บ.ประชามติ คาดว่าจะจบภายในวันนี้ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านมีทิศทางชัดเจนว่าเห็นชอบให้ผ่าน เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายประชามติ ส่วนในวันพรุ่งนี้ (23 มิถุนายน) จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเวลาเพียง 2 วัน พรรคร่วมฝ่ายค้านคงจะใช้ผู้อภิปรายไม่เกิน 30 คน พรรคเพื่อไทยประมาณ 13 คน ซึ่งหากไม่จบภายใน 2 วัน ก็จะขอหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ขยายเวลาเพิ่มไปถึงวันที่ 25 มิถุนายน
นายสุทินกล่าวว่า ส่วนทิศทางการลงมติของพรรคเพื่อไทย ในส่วนร่างของพรรคจะเห็นชอบทั้ง 4 ร่าง ไม่นับรวมร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ที่ไม่ถูกบรรจุในวาระการประชุม ส่วนร่างอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกพรรคเพื่อไทยมีมติว่าจะรอฟังการอภิปรายแต่ละร่างก่อน ถึงจะมีมติไปทางใดทางหนึ่งในวันสุดท้าย เนื่องจากร่างของทั้งพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลมีส่วนที่ตรงกันกับร่างของพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น ส่วนที่ตรงกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนที่ไม่ตรงจะดูและฟังว่าสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการ วาระที่ 2 ได้หรือไม่ หากมีโอกาสที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ก็คงจะพิจารณารับหลักการไป แต่หากเรื่องใดที่ไม่สามารถปรับปรุงได้และขัดกับเราชัดเจน แน่นอนว่าก็คงจะเห็นชอบไม่ได้
เมื่อถามว่าญัตติมาตรา 256 ที่ไม่สามารถบรรจุเข้าวาระประชุมได้ หาก พ.ร.บ.ประชามติผ่านความเห็นชอบจากสภา พรรคร่วมฝ่ายค้านมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าจะขอมติจากสภาเพื่อทำประชามติมาตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นายสุทินกล่าวว่า แน่นอน สำหรับกรณีมาตรา 256 ที่ไม่ถูกบรรจุและยังไม่ตก เรามองในแง่ดีว่าเป็นเพราะยังไม่มี พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก่อนพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะหารือกับประธานรัฐสภาในที่ประชุมว่าหาก พ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้วจะใช้วิธีใดในการดันเรื่องนี้เข้าเพื่อให้สภามีมติส่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำประชามติ
เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าต้องทำประชามติก่อน แต่พรรคเพื่อไทยยังมีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรานี้ นายสุทินกล่าวว่า เราเสนอเข้ามา เจตนาเพื่อเป็นต้นเรื่อง ต้นทางที่จะนำไปสู่การทำประชามติ หากเราไม่เสนอเข้ามาเลยก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรถึงจะมีการทำประชามติ
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีการระบุว่าจะให้สภายื่นเรื่องให้ ครม.จัดทำประชามติ ได้พูดคุยกันถึงประเด็นนี้แล้วหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า แบบนี้ก็ได้ เพราะเป็นแนวทางตรงกันอยู่แล้วว่าเราคงจะต้องให้สภายื่นเรื่องให้ ครม. แต่จะต้องรอ พ.ร.บ.ประชามติ หากไม่ผ่านแนวปฏิบัติก็ไม่ได้