‘ก้าวไกล’ ชี้ลุยแก้ รธน.เป็นแผนปูทาง ‘ประยุทธ์’ กลับสู่อำนาจ ถามทำไมไม่รอทำประชามติก่อน

‘ก้าวไกล’ ชี้ลุยแก้ รธน.เป็นแผนปูทาง ‘ประยุทธ์’ กลับสู่อำนาจ ถามทำไมไม่รอทำประชามติก่อน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกลในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 23-24 มิถุนายน ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ร่าง ตนคาดว่าร่างที่เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 อย่างแน่นอน เพราะเราเห็นแล้วว่าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้เป็นการทำเพื่อให้แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจนนำไปสู่การยุบสภาในเร็วๆ นี้ ซึ่งสิ่งที่พบเห็นในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้คือความเร่งรีบ

“ในวันนี้ที่มีการลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และ พ.ร.บ.ยาเสพติด ถึง 3 ร่าง ซึ่งเสนอเข้ามาโดยคณะรัฐมนตรีและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับสามารถผ่านไปได้จะมีประโยชน์ต่อกระบวนการในการจัดการกับผู้ที่ทำผิดหรือผู้ต้องหา เพราะเป็นการรวบรวมกฎหมายแต่ละฉบับรวมเป็นประมวลกฎหมายให้บังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการให้อำนาจกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในการใช้กฎหมายเพื่อฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด” นายพิจารณ์กล่าว

นายพิจารณ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าได้มีการบรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในการประชุมวันที่ 23 มิถุนายนด้วย ซึ่งหากวันนี้พิจารณากฎหมายยาเสพติดไม่เสร็จ กฎหมายฉบับนี้ก็จะถูกดองไว้อีก ตนคิดว่าเป็นการจัดลำดับความสำคัญที่ดูแปลกๆ นอกจากนี้การแก้ไขมาตรา 256 ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยไม่ได้ถูกบรรจุระเบียบวาระในการประชุมครั้งนี้ โดยอ้างเงื่อนไขคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มีการทำประชามติก่อน ซึ่งหากต้องรอร่างนี้ทำประชามติ เหตุใดจึงไม่รอพิจารณาร่วมกับร่างอื่นๆ พร้อมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจากภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมรายชื่อเกือบจะครบหลักเกณฑ์ 50,000 รายชื่อแล้ว เพื่อให้ทุกร่างได้นำเข้าสู่สภาจะเป็นการเหมาะสมกว่าหรือไม่ และจะเป็นการประหยัดงบประมาณมากกว่าหรือไม่ ไม่ว่าแต่ละพรรคการเมืองนอกเหนือจากพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากไม่สามารถปิดสวิตช์ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปได้ก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้ระบบการเลือกตั้งจะสะท้อนเสียงประชาชนได้ดีแค่ไหนก็ตาม

“พรรคก้าวไกลยืนยันว่า มาตรา 272 ต้องได้รับการยกเลิก จึงเป็นเหตุที่พรรคก้าวไกลไม่ได้ยื่นร่าง หรือเซ็นร่วมกับร่างใดๆ เพราะไม่อยากสร้างความสับสนให้กับสังคม เพราะต้องการชี้ให้เห็นว่าการที่จะไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องยกเลิกมาตรา 272” นายพิจารณ์กล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่าจะมีการหารือในที่ประชุมเกี่ยวกับร่างมาตรา 256 ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายพิจารณ์กล่าวว่า ไม่ใช่แค่ร่างของพรรคเพื่อไทย แต่รวมถึงการล่ารายชื่อของภาคประชาชนด้วย ซึ่งจะมีการตั้งคำถามไปที่ประธานในวันพรุ่งนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image