‘ปชป.’ มีมติโหวตรับ 13 ร่าง ติง ม.144-ม.185 ของไพบูลย์ ชงเข้มไป หวั่นกระทบดึงงบแก้ความเดือดร้อนปชช.ไม่ได้
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การเสนอร่างแก้แล้วธรรมนูญในวันนี้จะเรียงลำดับเริ่มที่ร่างของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1 ร่าง พรรคเพื่อไทย (พท.) 4 ร่าง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 2 ร่าง และ พรรค ปชป. 6 ร่าง เมื่อเสนอร่างครบเสร็จแล้วจะอภิปรายร่วมกัน เชื่อว่าแต่ละฝ่ายจะทำให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าเป็นไปตามข้อตกลงจะลงมติในเวลา 16.00 น. ของวันที่ 24 มิถุนายน ที่จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับ
ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานเลขาฯสภาผู้แทนราษฎรได้แจ้งเบื้องต้นว่า จะต้องลงมติด้วยการขานชื่อทีละคน แต่สามารถทำให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยใช้แอพพลิเคชั่นให้ผู้ที่ขานชื่อลงมติสามารถตรวจสอบการลงมติของตัวเองได้และให้เจ้าหน้าที่ประมวลผลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทันที ก็จะทำให้การลงคะแนนและการคิดสัดส่วนคะแนน 1 ใน 3 ของ ส.ว. เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถเสนอชื่อกรรมาธิการ 45 คน ได้ก่อนเที่ยงคืนของวันที่ 24 มิถุนายน
นายชินวรณ์กล่าวว่า ในการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในคราวนี้พรรค ปชป.ถือว่าเราได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามความต้องการของประชาชนต่อไป เบื้องต้นมติของพรรค ปชป.จะโหวตรับหลักการทั้ง 13 ร่าง แต่ก็มีบางประเด็นที่พรรค ปชป.ยังติดใจอยู่ โดยเฉพาะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พปชร.ที่เสนอโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ในมาตรา 144 เกี่ยวกับเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่ห้ามไม่ให้สมาชิกรัฐสภาแปรญัตติได้ และมาตรา 185 ห้ามสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งเราจะต้องหารือกันในสภาอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ ส.ส.สามารถแปรญัตตินำงบลงพื้นที่ได้ เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ การร่างรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราทุกฝ่ายจะต้องมีจิตสำนึกร่วมกัน ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการถอดสลักทางการเมืองและจะนำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น
