‘พิธา’ ย้ำ ‘อำนาจสูงสุดของประเทศนี้ เป็นของใคร ? ต้องถกกันให้จบใน ‘รัฐธรรมนูญ’ ฉบับใหม่

‘พิธา’ ย้ำ ‘อำนาจสูงสุดของประเทศนี้ เป็นของใคร ?’ คือ ‘ปมปัญหาใจกลาง’ ที่ยังไม่ลงตัวนับตั้งแต่ 24 มิ.ย. 2475 ยืนยันต้องถกกันให้จบใน ‘รัฐธรรมนูญ’ ฉบับใหม่ ลั่นใครชนะเลือกตั้งก็ไม่เกี่ยว เพราะ “พวกเราก็เป็นได้แค่เพียง ‘เด็กขี่ม้า’ ซึ่งม้าอาจพยศอีกเมื่อไรก็ได้ตามคำสั่งเจ้าของม้า”

ต่อมาเวลา 13.35 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมาเราเถียงกันผิดโจทย์ เราหาคำตอบกันผิดคำถาม ประเด็นที่เราควรจะนำมาเป็นโจทย์ในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้และในอนาคตข้างหน้าเป็นปัญหาที่ว่า อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของใคร ซึ่งนี่เป็นปัญหาใจกลางที่ยังไม่ลงตัวนับตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2475 หรือเกือบ 90 ปีมาแล้ว เราก็ยังเถียงกันไม่จบ การแก้ไขรัฐธรรมนูญของเราไม่ใช่เรื่องงบประมาณของส.ส. หรือส.ว. ไม่ใช่เรื่องของสิทธิเสรีภาพที่เป็นแค่กระดาษเปื้อนหมึกที่เราพูดได้ แต่เราปฏิบัติไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องระบบเลือกตั้งที่หวังว่าจะมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากที่สุด เพราะต่อให้ใครเลือกตั้งชนะท่วมท้นเพียงใด มีศักยภาพมากแค่ไหน พวกเราก็เป็นได้แค่เพียง ‘เด็กขี่ม้า’ ซึ่งม้าอาจพยศอีกเมื่อไรก็ได้ตามคำสั่งเจ้าของม้า

นายพิธากล่าวว่า ตราบใดที่เรายังแก้ปมปัญหานี้ไม่ได้ เราก็จะไม่สามารถหลุดออกจากหลุมดำทางการเมืองนี้ได้ สังคมไทยที่เรารักก็คงจะไม่มีศักยภาพ ไม่มีสมาธิเพียงพอในการพัฒนายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของชาติ ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปช่วยเหลือคนตัวเล็กตัวน้อย ทลายทุนผูกขาดและไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปนึกถึงเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า ไม่มีเวลาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบกับวิกฤตครั้งใหญ่ในโลกใบใหม่ เราคงไม่มีสมาธิไปไปยกเครื่องระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก เมื่อมองเห็นการเมืองที่เป็นจริงเช่นนี้ ตนและพรรค ก.ก. จึงเสนอให้รัฐสภาเร่งเดินหน้าจัดทำประชามติเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เพื่อให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้แสวงหาฉันทามติร่วมกันว่า ระบบการเมืองแบบใดที่เรายอมรับกันได้ และอยู่ร่วมกันได้ ถึงแม้ว่าความคิด ความฝัน และอุดมการณ์ของเราจะต่างกันมากสักเพียงใดก็ตาม และนี่คือก้าวแรกในการหยุดวงจรอุบาทว์ทางอำนาจนี้อย่างแท้จริง

“ในการลงมติเฉพาะหน้าวันนี้ผมและพรรค ก.ก. ขอเชิญชวนให้สมาชิกรัฐสภาผู้ยังห่วงใยในอนาคตของบ้านเมืองช่วยกันโหวตเพื่อหยุดแผนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อต่ออายุกระบอบประยุทธ์และร่วมมือร่วมใจกันโหวตเพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เพื่อเปิดประตูบานแรกในการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากประชาชน หากเราไม่สามารถปิดสวิตช์ ส.ว. ได้การแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบนี้จะไม่มีความหมายเป็นเพียงแค่ละครตบตาประชาชนฉากใหญ่ ท้ายที่สุดตนอยากฝากไปยังผู้มีอำนาจทุกท่านที่เชื่อว่าตัวเองจะสามารถเหนี่ยวรั้งเข็มนาฬิกาไว้ได้ ขออวยพรให้ท่านมีอายุยืนเพียงพอที่จะเห็นความพยายามของท่านล้มสลายไม่มีชิ้นดี ได้เห็นความต้องการของท่านถูกบดขยี้ด้วยกงล้อของเวลา ที่เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งและได้มีโอกาสรับรู้กับตาของท่านเองว่า ผู้คนและยุคสมัยจะตราหน้าพวกท่านว่าอย่างไรไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติเรา” นายพิธากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image