รัฐสภา คว่ำ ร่าง พปชร. ส่วนร่างบัตร 2 ใบพรรคร่วม ได้ไปต่อ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงทิศทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในระหว่างการประชุมรัฐสภา ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้ง 13 ฉบับ ตั้งแต่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับของพรรคพลังประชารัฐ 1 ฉบับ พรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน 4 ฉบับ และพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรค อีก 8 ฉบับ โดยที่ประชุมจะให้สมาชิกต่างขานชื่อ รับหลักการ ไม่รับหลักการ หรืองดออกเสียง ตามลำดับตั้งแต่ร่างของพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ เมื่อที่ประชุมขานชื่อมาถึงคนที่ 250 จากจำนวน 700 คนของทั้งหมด ผลปรากฏเบื้องต้นว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย กับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เห็นพ้องลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 13 ฉบับ ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เสียงแตก โดยมี ส.ส.ที่ลงมติรับหลักการทั้ง 13 ฉบับ อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา เป็นต้น
ด้าน ส.ว.ส่วนใหญ่ พร้อมใจกันลงมติรับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแก้ระบบเลือกตั้ง มีเพียง พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร เท่านั้นที่ลงมติไม่รับหลักการด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จนกระทั่งการขานคะแนนของสมาชิกรัฐสภามาถึงในเวลา 21.30 น. ปรากฏว่า คะแนนเสียงในร่างที่ 13 ของพรรคร่วมรัฐบาล เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้คะแนนเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง คือ 367 คนไปเรียบร้อยแล้ว จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 733 คน โดยมีเสียง ส.ว.ลงคะแนนรับหลักการเกิน 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงเช่นกัน ทำให้ร่างที่ 13 ผ่านความเห็นชอบในวาระรับหลักการเป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ร่างที่ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ เรื่องบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และการแก้ไขมาตรา 144 และมาตรา 185 เรื่องการยกเลิกบทลงโทษ ส.ส.และ ส.ว. ที่ก้าวก่ายการแปรญัตติงบประมาณ และการให้ ส.ส.-ส.ว.เข้าไปแทรกแซงการทำงานข้าราชการได้นั้น ปรากฏว่า มีคะแนนไม่รับหลักการ และงดออกเสียง ของส.ว. เกิน 166 เสียง จาก ส.ว. 250 คน
เท่ากับว่ามีเสียง ส.ว.ที่จะให้ความเห็นชอบร่างดังกล่าวไม่ถึง 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงอย่างแน่นอนแล้ว จึงไม่ผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 อย่างแน่นอนแล้วเช่นกัน
