‘โฆษกเพื่อไทย’ จี้ ‘ประยุทธ์’ เลิกใช้ระบบราชการรับมือโควิด แนะ 4 ทางออก แก้วิกฤตโควิดระบาดหนักใน กทม.
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีองค์การเภสัชกรรมจะนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาในปลายปีนี้ สะท้อนการทำงานของระบบราชการที่ล่าช้า เน้นขั้นตอนเอกสาร (Red Taps) ไม่ใช่การบริหารในสถานการณ์วิกฤต ทั้งที่การแพร่ระบาดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูง เตียงไม่พอรองรับผู้ป่วย มีผู้สูงอายุทั้งในบ้านและในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ติดเชื้อนอนรอความตายจนเสียชีวิตแล้วหลายสิบราย บุคลากรการแพทย์ได้รับวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ติดเชื้อโควิด-19 สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐบาลและการจัดหาวัคซีนว่ามีคุณภาพ คุ้มค่ากับงบประมาณที่ใช้ไปหรือไม่
น.ส.อรุณีกล่าวว่า ในสภาวะวิกฤตแบบนี้เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. ที่รวบอำนาจและยังกล้าประกาศ 120 วันเปิดประเทศ แต่ยังเพิกเฉยละเลยความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ดังนั้น สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเร่งดำเนินการ 1.ทำลายอุปสรรคทางราชการ ด้วยการออกคำสั่งลดระยะเวลาขั้นตอนการนำเข้าวัคซีนทางเลือกให้รวดเร็วที่สุด 2.เข้มงวดการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างชาติ จนเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ ในกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง 3.ตรวจหาเชื้อเชิงรุกในแหล่งชุมชนแออัด แคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อสกัดการระบาดให้ตรงจุด และ 4.ระดมสรรพกำลังแพทย์ และบุคลากรการแพทย์จากต่างจังหวัดเข้ามาแก้วิกฤตการระบาดหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ
“ในขณะที่หลายประเทศทยอยจองวัคซีนโนวาแวกซ์ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า 90 % แต่ไทยกำลังจะตกขบวนรอบ 2 ยังคงสั่งซื้อซิโนแวคอยู่ร่ำไป วิกฤตสาธารณสุขไม่สามารถแก้ได้ด้วยทหารฉันใด การบริหารประเทศก็ไม่สามารถแก้ได้ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ฉันนั้น” น.ส.อรุณีกล่าว
