ยืนทะลุฟ้าซัดประยุทธ์ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเลี่ยงเยียวยา ย้ำที่จนเพราะถูก ‘กดขี่’ ไม่ใช่เรื่องโชคชะตา

ยืนทะลุฟ้าซัดประยุทธ์ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเลี่ยงเยียวยา ย้ำที่จนเพราะถูก ‘กดขี่’ ไม่ใช่เรื่องโชคชะตา

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 มิถุนายน ที่หน้ามหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝั่งศาลเจ้าพ่อมอดินแดง สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้ากว่า 10 คน จัดกิจกรรม “ยืนทะลุฟ้า ชู 3 นิ้ว บีบแตรไล่ประยุทธ์” เป็นวันที่ 23 หลังจากวานนี้ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรม รำลึก 24 มิถุนายน 2475 ร่วมกับกลุ่มราษฎร ที่กรุงเทพมหานคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศโดยทั่วไปมีการวางป้ายผ้าขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และปิดสวิตช์ ส.ว. ขณะที่นักกิจกรรมทะลุฟ้าห้อยภาพใบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ที่มีสัญลักษณ์ขีดฆ่า ระบุข้อความด้วยว่า “ออกไป” ยืนสงบนิ่ง ชู 3 นิ้ว โดยมีนักกิจกรรมรายหนึ่งยืนอ่านหนังสือ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” มีการสลับกันปราศรัยในประเด็นการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไปจนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม ในช่วงระหว่างที่รถติดไฟแดง พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนที่สัญจรผ่านร่วมบีบแตร และชู 3 นิ้วอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เมื่อประชาชนบีบแตร หรือลดกระจกลงเพื่อชู 3 นิ้ว นักกิจกรรมพร้อมใจชู 3 นิ้วตอบกลับ นอกจากนี้ยังกล่าววลี “พี่น้องเอ้ย ประยุทธ์ออกไป” เป็นระยะ

Advertisement

“ยาใจ” สมาชิกกลุ่มทะลุฟ้า กล่าวว่า ในประเทศไทยมีคนเสียชีวิตจากโควิด จากการแก้ปัญหาอย่างไม่ตรงจุดของรัฐบาลกว่า 1,819 ราย ซึ่งมีคนตายเพิ่มขึ้นๆ นี่คือสังคมที่อยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ประเทศไทยที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยก็มาถูกยึดอำนาจโดยเผด็จการ ด้วยระบอบประยุทธ์ เราจึงต้องช่วยกัน เมื่อวานราษฎรได้ดันเพดานไปแล้วว่ารัฐธรรมนูญต้องเป็นของประชาชน” ยาใจกล่าว

Advertisement

ด้าน ”ต๋ง” สมาชิกทะลุฟ้า กล่าวว่า กลไกสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์คงอำนาจในสภาต่อไปได้ คือการใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมาย พ.ร.ก.ต่างๆ เพื่อถ่วงดุลอำนาจให้ตัวเอง เช่น พล.อ.ประยุทธ์ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อที่จะไม่ต้องเยียวยาพี่น้องประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับการรักษาโรคร้าย เยียวยาจากรัฐบาล

“หมายความว่า โควิดที่เข้ามาไม่ได้เป็นความผิดพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนควรได้รับการเยียวยาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แต่ที่ประยุทธ์ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อที่จะรวบอำนาจให้ตัวเอง และให้ทุกอย่างอยู่ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นี่คือไม่มีความเท่าเทียมในประเทศนี้ เพราะชนชั้นปกครองไม่ได้มองว่าเราเป็นคน ไม่ได้มองว่าประชาชนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เขาจึงไม่ต้องการเยียวยารักษาพี่น้องประชาชน เพราะต้องการเอาเงินภาษีของพวกเราไปเอื้อผลประโยชน์ให้กับตัวเอง เพิ่มงบให้กับกองทัพ ซื้อยุทโธปกรณ์” ต๋งกล่าว

“ต๋ง” กล่าวต่อว่า ชัดเจนแล้วว่าประยุทธ์หมดความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐบาลที่จะบริหารประเทศนี้แล้ว สำหรับคนที่ชีวิตยังไม่ได้ดีขึ้น อย่าไปโทษโชคชะตา อย่าไปคิดว่าชาติที่แล้วเราทำบุญมาน้อย อย่าไปคิดว่าเราไม่มีวาสนา จน

“เรื่องชนชั้นไม่ใช่เรื่องวาสนา ไม่ใช่เรื่องของบุญและโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลและชนชั้นปกครอง ที่ไม่ทำให้ชีวิตพวกเราดีขึ้นสักที กดให้พวกเราอยู่กับที่ ให้คุณภาพชีวิตของเราไม่สามารถดีขึ้นกว่านี้ได้ เพราะถ้าเรารู้จักสิทธิเสรีภาพของตัวเอง ให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพ รัฐบาลจะไม่สามารถกดขี่ได้” ต๋งกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เดินทางมาร่วมสมทบช่วงท้ายกิจกรรม รวมกว่า 20 ราย โดย น.ส.ลลิตา มีสุข หรือแป๋ม หนึ่งในผู้ต้องหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการโพสต์คลิปผ่านแอพพลิเคชั่น TikTok เดินทางมาร่วมยืนด้วย

น.ส.ลลิตาเปิดเผยว่า วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ มีขึ้นศาล นัดส่งฟ้อง ต้องคอยดูว่าจะรับฟ้องหรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะมีการเลื่อนไปก่อน

“ขอบคุณทุกกำลังใจที่บอกให้แป๋มสู้ แป๋มจะไม่สู้แค่เพื่อให้ตัวเองชนะ แต่เราจะชนะไปด้วยกัน วันนี้มาจากกาฬสินธุ์ ทำธุระที่จังหวัดขอนแก่น รู้ว่ายังยืนอยู่ เลยอยากให้มายืนด้วยกัน ทุกคนอยากให้รัฐบาลออกไป มีหลายวิธีที่เราจะเข้าร่วม ส่งกำลังใจให้กันได้” น.ส.ลลิตากล่าว

จากนั้นยุติกิจกรรมในเวลา 19.42 น. ครบ 1 ชั่วโมง 12 นาที

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image