กรณ์ แนะรบ.หมดเวลาตีปี๊บข่าวดี ชี้ผู้นำต้องกล้าพูดความจริง สภาพนี้ 120 วันไม่ทันแน่

“กรณ์” ชี้ รัฐคลอดแผนเยียวยาประชาชนมาถูกทาง แต่ไม่พอ ห่วงเปิดประเทศไม่ทัน 120 วัน แนะครม.ปรับเกณฑ์อัดฉีดเงินเยียวยาลูกจ้าง-ผู้ประกอบการให้ตรงจุด ต่อเนื่อง 3 เดือน

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ทำให้เราสัมผัสได้ว่า จำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์ และทัศนคติที่มีต่อไวรัสแน่นอนว่า คำตอบสุดท้ายคือ การฉีดวัคซีน ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีน 250,000 เข็มต่อวัน ซึ่งเท่ากับ 7.5 ล้านเข็มต่อเดือน และภายในสิ้นปีก็จะฉีดได้ประมาณ 40 ล้านเข็ม เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่จะไปให้ถึง 100 ล้านเข็ม จึงยังห่างไกล ต้องปรับการฉีดให้ได้วันละ 500,000 เข็ม จึงจะเข้าเป้าและครอบคลุม นอกจากนี้ สิ่งที่น่าห่วงคือการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ ซึ่งหมายความว่าภายใน 4 เดือน ประชาชนคนไทยจะต้องเข้าถึงวัคซีนได้แล้ว 70 เปอร์เซ็นต์ แต่หากยังฉีดกันในจำนวน 250,000 เข็มต่อวัน ไม่มีทางทันแน่นอน รัฐบาลจึงต้องประเมินตามสถานการณ์ความเป็นจริง หากไม่ยอมรับความจริง ก็จะไม่สามารถเตรียมมาตรการได้ทัน และจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา หากเราเปิดประเทศได้ช้า

“หมดเวลาที่เราจะพยายามนำเสนอว่าเป็นข่าวดี แต่เป็นจังหวะที่ผู้นำต้องกล้าที่จะพูดความจริงกับประชาชน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเตรียมตัว ส่วนการฉีดวัคซีน ถ้าเราจะเปิดประเทศให้ได้ ต้องฉีด 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร แต่อัตราที่ฉีดปัจจุบันไม่มีทางถึงแน่นอน ประเด็นที่ท้าทายคือรัฐบาลจะบริหารจัดการให้เพียงพอและทันท่วงทีได้อย่างไร โดยเฉพาะสถานการณ์ผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น เตียงขาดแคลน ซึ่งเป็นภาวะที่หนักหนาสาหัสต่อระบบสาธารณสุขอย่างมาก เราจึงต้องมาปรับความคิดกัน แนวโน้มการทำมาหากินของคนไทยที่ต้องทนความยากลำบากกันไปอีกเท่าไร และจะต้องปรับตัวกันอย่างไรต่อสัญญาณที่รัฐบาลส่งออกมา”นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้นตอการแพร่เชื้อส่วนใหญ่เกิดจากกิจกรรมใต้ดิน และแคมป์คนงานเป็นเรื่องที่พวกเราได้ตักเตือนเจ้าหน้าที่ของรัฐมาหลายเดือนว่าให้ระมัดระวังว่าจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อสำคัญ ซึ่งหละหลวมมากในการตรวจสอบ กรุงเทพฯ ควรต้องมาตรวจสอบเชิงรุกว่ามีใครอาศัยอยู่ในแคมป์ รวมถึงต้องสั่งห้ามเข้า-ออก และห้ามเปลี่ยนคนงาน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เข้มงวด จนทำให้กลายเป็นคลัสเตอร์การแพร่เชื้อ และการประกาศมาตรการกึ่งล็อกดาวน์สร้างความอึดอัดให้กับประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร อีกทั้งทำให้ร้านค้าและร้านอาหารตั้งตัวแทบไม่ติด เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ดังนั้นการจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน หรือ 4 เดือน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม

นายกรณ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ เริ่มมีนโยบายที่เข้าเป้า โดยรัฐบาลตั้งงบประมาณไว้ที่ 7,500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณจากกองทุนประกันสังคม โดยกำหนดให้พวกเขาได้รับสิทธิชดเชยรายได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ชดเชยรายได้สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท รวมถึงการจัดสรรเงินจาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ฯ 500,000 ล้านบาท เพิ่มเติมให้รายละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้ครั้งเดียวและเดือนเดียว นอกจากนี้ รัฐบาลจะเยียวยาให้ผู้ประกอบการเพิ่มเติมตามรายหัวลูกจ้าง โดยคำนวณตามสูตร ลูกจ้างจะได้รับเยียวยา 3,000 บาท เพดานสูงสุดไม่เกิน 200 คน หรือไม่เกิน 600,000 บาท ต่อกิจการ เพื่อแบ่งเบาในแง่ภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะเพดานนี้น่าจะครอบคลุมเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายเล็กได้ทั้งหมด แม้นโยบายลักษณะนี้มาถูกทาง แต่ไม่น่าเพียงพอสำหรับลูกจ้าง เพราะการได้รับเงินชดเชย จากกองทุนประกันสังคมสูงสุด 7,500 บาท และเมื่อร่วมกับเงินสมทบทุนอีก 2,000 บาท หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้เฉลี่ยเดือนละ 20,000 บาท ก็ยังต่ำกว่าครึ่ง ไม่น่าเพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายที่ทุกคนต้องมี

Advertisement

“ผมจึงอยากฝากไปถึง ครม.เศรษฐกิจว่า ขอให้ขยายวงเงินและขยายเวลาในการช่วยเหลือ โดยวงเงินสมทบที่เหมาะสม คือ 5,000 บาท บวกกับเงินชดเชยรายได้สูงสุด 7,500 บาท ควรจะเป็นเงิน 12,500 บาท น่าจะพอประทังชีวิตให้กับครอบครัวช่วงนี้ และในแง่ภาระต่องบประมาณของรัฐเป็นวงเงินที่น่าจะแบกรับไว้ได้ เพราะวงเงินที่รัฐจัดสรรไว้เพื่อการชดเชยให้ผู้ประกันตน และผู้ประกอบการโดยรวมมีเพียงแค่ประมาณ 4,000 ล้านบาท งบที่รัฐบาลประกาศไว้รวมกับกองทุนประกันสังคมเป็นเงิน 7,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินกู้ 5 แสนล้านบาท มันน้อยมาก นี่คือวิธีการเยียวยาที่ถูกจุด ตรงเป้าที่สุด และต้องขยายเวลาไปเป็น 3 เดือน ถ้ารัฐจะต้องจัดสรรเงินเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ต่อเดือน ภาระค่าใช้จ่ายของรัฐก็จะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอำนาจในมือที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ และจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน”นายกรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image