‘นายกฯ’ บินตรงเปิด ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ รับต่างชาติวันแรก ย้ำความเชื่อมั่นเปิดประเทศใน 120 วัน

‘นายกฯ’ บินตรงเปิด ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ รับต่างชาติวันแรก ย้ำความเชื่อมั่นเปิดประเทศใน 120 วัน

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจความพร้อมการดำเนินงานเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว ในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว หลังจากซบเซามาอย่างยาวนาน โดยมีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวภูเก็ตและชาวไทยทั่วประเทศในการเปิดประเทศใน 120 วัน

โดยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศมาตลอด ซึ่งสาเหตุที่เลือกจังหวัดภูเก็ต เพราะมีความเหมาะสมในลักษณะของพื้นที่เป็นเกาะ สามารถควบคุมการเข้าออกได้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความชื่นชอบมาอย่างยาวนาน รวมถึงมีความพร้อมด้านโรงแรม  ที่พักบริการทางสาธารณสุขที่มีอย่างเพียงพอ โดยได้เตรียมความพร้อมด้วยการระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในจังหวัดซึ่งปัจจุบันฉีดไปมากกว่า 80% ของประชากรแล้ว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่จะฉีดให้ครบ 100% อีกทั้งจังหวัดภูเก็ตได้มีมาตรการในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตที่เข้มงวดอีกด้วย

การตรวจความพร้อมของโครงการในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะตรวจความพร้อมตรวจด่านทางเข้าจังหวัดภูเก็ตในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ท่าฉัตรไชย (ทางบก) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทางอากาศ) และท่าเทียบเรือวิสิษฐ์พันวา (ทางน้ำ) ตามโครงการท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Pier) รวมทั้ง ความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการ “EOC Phuket Tourism Sandbox” ซึ่งเป็น Command Center โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ บริหารจัดการ กำกับติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางมาจากในและต่างประเทศเข้าพื้นที่ภูเก็ต โดยจะมีระบบเชื่อมโยงกับทุกด่านเข้าออกและเชื่อมโยงศูนย์ประสานงานต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาลรัฐและเอกชน สถานีตำรวจภูธรจังหวัด ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ประสานงานโรงแรม SHA Plus Manager ศูนย์ประสานงานสถานประกอบการ SHA Plus และเชื่อมโยงกับ แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ตลอดเวลาที่พำนักภายในภูเก็ต ส่วน EOC Phuket Tourism Sandbox จะเชื่อมโยงกับระบบกับ ศปก. ศบค. และ ศบค.มท. โดยศูนย์ดังกล่าวจะตั้งที่ศูนย์บัญชาการรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลภาคใต้ และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ติดตั้งระบบดังกล่าว เพื่อการทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Advertisement

สำหรับเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ตามโครงการ Phuket Sandbox คือ กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องเดินทางจากประเทศตามประกาศของกระทรวงการต่างประเทศได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยมีเอกสารการรับวัคซีนจากประเทศต้นทางและเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายไทยหรือที่ WHO รับรอง กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ให้เดินทางมากับผู้ปกครองได้ มีผลการตรวจหาเชื้อ RT-PCR ก่อนการเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง และมีหลักประกันโควิด-19 ไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ ต้องจองและทำการเข้าพักโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA Plus ไม่น้อยกว่า 14 คืน ซึ่งสามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้มาตรการ D-M-H-T-T-A โดยไม่ต้องกักตัว ต้องทำการติดตั้ง แอพพลิเคชั่น Morchana บนสมาร์ทโฟน และอนุญาตให้แชร์การเข้าถึงตำแหน่ง เมื่อถึงสนามบินภูเก็ต ต้องทำการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR  และต้องเดินทางไปที่พักด้วยรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน SHA Plus และไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักจนกว่าจะทราบผลตรวจว่าไม่มีการติดเชื้อ รายงานตัวและรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีก 2 ครั้ง ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด (วันที่ 6-7 และ 12-13)  เมื่อทำการพักในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตครบ 14 วันแล้ว สามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้  หากพักในภูเก็ตไม่ถึง 14 คืน ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยเท่านั้น

Advertisement

กรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ต้องเป็นผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม หรือ ครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิด หรือได้รับวัคซีนชนิดแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 1 มาแล้วครบ 14 วัน (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าจังหวัดได้โดยไม่ต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19) หรือได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือ วิธีการ Antigen Test ไม่เกิน 7 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากการป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน โดยการแสดงหลักฐานยืนยัน ติดตั้งแอพพลิเคชัน “หมอชนะ” บนสมาร์ทโฟน และยินยอมเปิดแชร์ตำแหน่งที่ตั้งตลอดระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดภูเก็ต อีกทั้ง ต้องสังเกตอาการตนเอง (Self-Monitoring) และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก และให้รักษามาตรการภายใต้ D-M-H-T-T-A

ทั้งนี้ โครงการ Phuket Sandbox จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ช่วยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่องให้สามารถกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว ซึ่งต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ปลอดภัย เพื่อให้การท่องเที่ยวของไทยกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประมาณการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จะเข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จำนวน 100,000 คน ในไตรมาส 3/2564 (กรกฎาคม-กันยายน) สร้างรายได้อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท โดยตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 คาดว่าจะมียอดจองของผู้โดยสารที่จะเข้ามาภูเก็ต จำนวน 8,281 คน ซึ่งนับเฉพาะผู้โดยสารขาเข้าประเทศเท่านั้น ส่วนปริมาณเที่ยวบินทั้งหมดประมาณ 426 เที่ยวบิน เฉลี่ยที่ประมาณ 13 เที่ยวบินต่อวัน และวางพื้นที่เป้าหมายลำดับถัดไป คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า) เริ่มวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 และ Extension Sealed Route ได้แก่ กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) พังงา (เขาหลัก และเกาะยาว) เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง และดอยเต่า) ชลบุรี (พัทยา บางละมุง และสัตหีบ) บุรีรัมย์ (อำเภอเมือง และสนามช้างอารีนา) ซึ่งจะเปิดในวันที่  1 กันยายน 2564 สำหรับกรุงเทพฯ เพชรบุรี (ชะอำ) และประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จะเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่กักตัว ภายในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่จะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องมาตรการ ข้อกำหนด ข้อปฏิบัติอย่างชัดเจน ก่อนที่จะดำเนินการเปิดรับนักเที่ยวอย่างจริงจังต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image