‘หมอชลน่าน’ อัดบิ๊กตู่ “นะจ๊ะ” เริงร่าบนซากศพปชช.ขีดเส้น 2 อาทิตย์ ปรับโครงสร้าง ศบค.ทำไม่ได้ ต้องยุบทิ้ง
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตัวแทน ส.ส.จากหลายพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาฯพิจารณาหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบจากการระบาดโควิดและจากการบริหารจัดการของ ศบค.รวมทั้งช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งหมด 6 ญัตติ โดยเป็นพรรคเพื่อไทย 2 ญัตติ ก้าวไกล ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ เสรีรวมไทย พรรคละ 1 ญัตติ
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนดีใจที่มีการเสนอญัตติกันทุกพรรคทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล เพราะถือเป็นเรื่องด่วนจริงๆ และเป็นเรื่องบนคราบน้ำตาการร้องไห้ของประชาชน ต้องนำปัญหาความทุกข์เหล่านั้นมาพูดคุยกัน และญัตติต้องมีมติในเรื่องนั้นๆ เพื่อให้สภาส่งไปให้รัฐบาลรับพิจารณาดำเนินการตามที่สภาเสนอไป ที่ผ่านมาเราเสนอเรื่องนี้ไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจสนใจนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง แต่ปัจจุบันสภามีข้อจำกัดเรียกบุคคลมาสอบข้อเท็จจริง ไม่เช่นนั้นต้องเราต้องตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาติดตาม ทั้งนี้ เหตุผลที่ต้องเสนอญัตตินี้ขึ้นมา เพราะความทุกข์ยากของประชาชน การระบาดขณะนี้เกิดสายพันธุ์เดลต้า ประชาชนทุกข์จนทุกคนบอกว่าผู้นำประเทศ รัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เห็นคราบน้ำตาประชาชน ไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชน หนำซ้ำยังมี “นะจ๊ะ” เริงร่า อย่างคณะตลกบนซากศพของประชาชน
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า การระบาดโควิดขณะนี้รุนแรงมาก จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากการกลายพันธุ์เชื้อไวรัส แพทย์และบุคลากรต้องทำงานหนัก แพทย์ต้องเลือกว่าให้ใครอยู่หรือใครไป ส่อสัญญาณล่มสลายของระบบการสาธารณสุขของเราที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของโลกเป็นลำดับ 6 ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ประชาชนได้รับผลกระทบหมด การประกาศข้อกำหนดปิดแคมป์คนงาน โดยมีเงื่อนงำ เจตนาส่งต่อคนที่มีเชื้อไปยังต่างจังหวัด การส่งออกไปไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการขนย้ายและการขึ้นทะเบียน แต่ผู้บริหาร ศบค.ชุดนี้กลับไม่ทำ เลือกใช้ความหวาดกลัว ผลักไสไล่ส่ง และใช้มาตรการไล่จับ
“ปัญหาทั้งหลายของการเอาไม่อยู่ ทำให้การระบาดมากขึ้นใน กทม. ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการบริหารงานใน ศบค.ล้มเหลว การสื่อสารกับประชาชนก็ล้มเหลว ทั้งตัว ผอ.ศบค.และทีมงาน หากรู้ว่าเป็นตัวปัญหาทำไมไม่แก้ไข ผมไม่ได้ให้ยุบ แต่ปัญหากลับเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะความเชื่อมั่น ล้มเหลวและสอบตกโดยเฉพาะ “นะจ๊ะ” บนซากศพประชาชน การบริหารใน ศบค.ต้องปรับโครงสร้าง การให้เลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาเป็น ผอ.ศปก. ผมตั้งข้อสังเกตว่าไม่ฟังเสียงผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ มาตรการจึงออกมาทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขณะนี้เรากำลังสู้กับโรค ขอเรียกร้องให้ปรับโครงสร้าง แต่หากอีก 2 สัปดาห์ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ให้ยุบ ศบค.ใช้กฎหมายปกติ” นพ.ชลน่านกล่าว
นพ.ชลน่าน อภิปราย ส่วนมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องปรับนโยบายการตรวจหาเชื้อโรค ปรับมาตรการการกักกันโรคหลังตรวจพบ รวมทั้งมาตรการวัคซีนเฉพาะหน้า และการล็อคดาวน์ พล.อ.ประยุทธ์ อย่ากลัวคำว่าล็อคดาวน์ เพราะวัคซีนอาจเอาไม่อยู่ จะต้องมีการตัดสินใจเป็นกรณีพิเศษแต่ละเรื่องมาประกอบกัน หากล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพประชาชนไม่ด่าแต่จะร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะใช้เวลาไม่นาน 14 วันเอาอยู่ แต่ต้องตรวจหาเชื้อทุกคน แยกผู้ติดเชื้อ ส่วนใครไม่ติดเชื้อสามารถประกอบอาชีพทำมาหากินได้ ขณะนี้มีข้อเสนอว่า ถ้าจะควบคุมโรคต้องเอาวิธีการที่ทุกคนสามารถตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองได้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง ถ้าไม่ทำแบบนี้เอาไม่อยู่ช่วยได้จริงๆ ทุกคนจะรู้ว่าปลอดจากการติดเชื้อ คือ ไชน่าโมเดล ซึ่งวิธีนี้ประเทศจีนทำสำเร็จ เป็นการล็อกดาวน์อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่กลัวคำวว่าล็อกดาวน์ ส่วนการบริหารจัดการและกระจายวัคซีนมีปัญหาไม่เหมาะสม เลือกที่รักมักที่ชังจังหวัดหนึ่งได้จังหวัดหนึ่งไม่ได้ โดยข้อมูลนี้จะเปิดเผยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป วัคซีน 2 ตัวที่เราใช้นั้น ป้องกันป่วยหนักและตายได้ แต่ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้เลย แต่มันเก่ง เพราะป้องกันวัคซีนตัวอื่นเข้ามาประเทศเราได้ด้วย
“สิ่งที่จำเป็นที่สุด รัฐต้องประกาศให้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพทุกตัว ที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทย เป็นวัคซีนหลัก อย่าเรียกวัคซีนทางเลือก ค่าวัคซีนหลักทุกคนต้องได้รับบริการฟรี ทุกคนต้องไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐ สิ่งที่จำเป็นสำหรับการบริหารวัคซีนรัฐเองต้องให้ข้อเท็จจริงกับประชาชน อย่าปิดบังและอ้ำอึ้ง ประเทศไทยควรผลิตวัคซีนใช้เองได้ รัฐบาลต้องส่งเสริม การเยียวยาต้องครอบคลุมทั่วถึง ส่วนภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์วันนี้สังเกตว่า ครม.ไม่มาตอบกระทู้ ถ้ามีหลักฐานว่ารัฐมนตรีที่ถูกถามกระทู้ คนใดไปร่วมงานด้วย ผมจะให้ ส.ส.ร่วมกันเข้าชื่อเพื่อเอาผิดรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญที่จงใจเจตนาไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ” นพ.ชลน่านกล่าว
