ส.ส.แรงงานก้าวไกลจวก กอ.รมน.ห้ามแรงงานแคมป์ก่อสร้างอพยพ แม้ห่างจุด รง.เพลิงไหม้ไม่ไกล

ประกาศพื้นที่เสี่ยงภัยไร้ความหมาย! ‘ส.ส.แรงงานก้าวไกล’ ซัด คุมไม่ได้ทั้ง ‘โรคระบาด’ และ ‘ภัยพิบัติ’ จวก กอ.รมน.สั่งห้ามแรงงานอพยพหนี ไร้หัวใจปล่อยนับร้อยเสี่ยง ‘ไฟคลอก’ ตายหมู่

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายทวีศักดิ์ ทักษิณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนแรงงาน พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุการณ์โรงงานผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่ ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ระเบิดและมีเพลิงไหม้ ว่าสิ่งที่ต้องติงคือคำสั่งประกาศอพยพที่ไม่เป็นไปตามนั้น แม้มีประกาศอพยพในรัศมี 5-10 กิโลเมตร ออกมาในช่วงกลางวัน แต่สิ่งที่พบคือพนักงานจำนวนมากเพิ่งได้ออกจากพื้นที่เสี่ยงในช่วงเย็น หรือหลังเลิกงานไปแล้ว แม้เขาจะรู้ว่ามีคำสั่งจากข่าว แต่บริษัทบอกว่าให้ทำงานไปก่อน บางโรงงานประเมินสถานการณ์ด้วยตัวผู้จัดการโรงงานเองด้วยซ้ำ แบบนี้จะประกาศพื้นที่เสี่ยงเพื่ออะไร เพราะประกาศแล้วไม่ปฏิบัติตามก็ได้

“ที่เลวร้ายที่สุดคือการไม่ให้แรงงานที่ถูกสั่งปิดแคมป์เพราะมาตรการโควิดออกมา ในเวลา 22.00 น. ซึ่งเปลวไฟยังลุกไหม้แรงอยู่ ยังมีถึง 3 แคมป์ที่แรงงานออกมาไม่ได้ บางแคมป์ห่างแค่ 1 กิโลเมตร มีคนเป็นร้อยคนในนั้น เขาแจ้งมายังพวกเราว่าให้ช่วยประสานหน่อย เพราะเขาอยากออกไปแล้ว เขาเห็นควันที่กำลังพวยพุ่งอยู่ไม่สบายใจเลย เมื่อผมประสานไป เขาบอกปล่อยออกไปไม่ได้เพราะเป็นคำสั่งผู้ว่าฯ ถามว่าถ้าไฟคลอกขึ้นมาจะทำอย่างไร นี่คือความกลัวของพวกเขา ระหว่างนาทีวิกฤตกับประกาศมาตรการโควิดอะไรสำคัญกว่ากัน ชีวิตเขาตรงนั้นยังต้องมีอยู่หรือไม่ ระหว่างทหารที่เฝ้าแคมป์กับ กอ.รมน.ที่เราประสานไปโยนกันไปมาว่าใครมีอำนาจในการอนุญาตให้คนงานออกไป

สุดท้ายบางแคมป์แรงงานก็ตัดสินใจหนีออกมาเอง เห็นควันพวยพุ่งแบบนั้นเขาไม่อยู่ เป็นผมก็ไม่อยู่ และเขาไม่ผิดด้วยที่ทำแบบนั้น เขาให้ความร่วมมือกับรัฐกักตัวเองแล้วทุกอย่าง ถ้าจัดการให้ดี พาเขาอพยพมาก็สามารถดูแลเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ แต่พอไม่จัดการเขาก็กระจายกันออกไป แล้วจะติดตามอย่างไร คุณทอดทิ้งชีวิตเขาแบบนี้ไม่ได้ ล่าสุดที่เลวร้ายที่สุดท้ายที่ได้ยินมาคือ กอ.รมน.เป็นผู้ที่ประเมินว่าไฟคงไม่ลุกลามจึงไม่ให้ออก ถามว่าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าควันพิษจะไม่ส่งผลกับเขาที่อยู่ตรงนั้นแล้วบอกให้เขาอยู่ต่อ”

นายทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีแค่รัศมี 5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ส่งผลถึงโรงงานต่างๆ ทั้งหมดด้วย เช่น กลุ่มยานยนต์ขณะนี้หยุดการผลิตทั้งหมดแล้ว 2 วัน มีแรงงานนับพันคนได้รับผลกระทบเรื่องรายได้ จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลว่าการสั่งการในภาวะฉุกเฉินต้องดูแลทุกคนทุกกลุ่ม และต้องไม่เอาใครไปเป็นเครื่องบูชายัญ แรงงานก็มีหัวใจ บางคนพูดว่าแรงงานสร้างชาติ แต่ถามว่าแบบนี้ชาติให้อะไรกับเขา ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าแรงงานที่หนีออกไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง ผลลัพธ์ของการประกาศล็อกดาวน์โดยไม่ให้แรงงานออกจากพื้นที่เสี่ยงที่สุดแบบนี้จึงหมายถึงมาตรการควบคุมโรคก็ล้มเหลวด้วย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image