‘จิรายุ’ หอบหลักฐานยื่นนายกฯตั้ง กก.สอบสวนปมผู้บริหาร พม.-กคช.ลักไก่ ทำโครงการบ้านเคหะสุขประชา

 

‘จิรายุ’ หอบหลักฐานยื่นนายกฯตั้ง กก.สอบสวนปมผู้บริหาร พม.-กคช.ลักไก่ ใช้ ‘ครม.รับทราบ’ เปิดช่องทำโครงการบ้านเคหะสุขประชา เตรียมเดินสายร้ององค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องด้วย

เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมแนบพยานหลักฐานและเอกสารรายงานผลการสอบหาข้อเท็จจริงของ กมธ. กรณี ละเมิดกฎหมายสำคัญของหน่วยงานภายใต้สังกัดของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้บริหารกระทรวง ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ลักไก่ดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชา มูลค่ากว่าแสนล้านบาท และการบริหารงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่

นายจิรายุกล่าวว่า กมธ.ได้ใช้เวลาสืบสวนสอบสวนนานกว่า 5 เดือน ทั้งการตรวจสอบเอกสารเชิงลึก พยานเอกสาร พยานบุคคล การลงพื้นที่และประชุมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง จนสามารถสรุปรายงานอันเป็นเหตุผลสำคัญในการนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อองค์กรอิสระเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งมีสาระสำคัญที่นายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องรู้ และต้องรับฟังข้อมูลให้รอบด้าน โดยโครงการแบบนี้นายกฯ ถูกหลอกไปเปิดงานว่าจะช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยในช่วงโควิด แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ดังนี้ 1.ทำไมไม่มีใครบอกความจริงนายกฯ ว่าโครงการเคหะสุขประชาของการเคหะฯ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กว่า 1 แสนหน่วย มูลค่าเกือบแสนล้านบาท ที่พยายามชงกันขึ้นมานั้นไม่ใช่โครงการที่ช่วยประชาชนในสถานการณ์โควิด เพราะเป็นโครงการวางแผนของเสือนอนกินระยะยาว ของกลุ่มคนบางกลุ่ม เพราะหาก ครม.อนุมัติให้ทำก็จะใช้เวลา 6-7 ปีข้างหน้า ราวปี 2570 ซึ่งไม่สามารถบรรเทาทุกข์สถานการณ์โควิดในปัจจุบันได้ เป็นโครงการเอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น 2.นายกฯ รู้หรือไม่ว่าเขาลักไก่แอบใช้ “ครม.รับทราบ” ไปทำโครงการนำร่อง 2 ที่ ทั้งๆ ที่ ครม.ยังไม่ได้อนุมัติเลย แต่ย่องไปทำทั้งๆ ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ เรื่องนี้จะทำให้นายกฯ เสียฟอร์มมาก รู้ไม่ทันพรรคร่วมหรือไม่ ทำโครงการขนาดใหญ่รูปแบบนี้เพื่ออะไร นายกฯ ควรทราบดังนี้ อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดย กคช.ทำโครงการนำร่องโดยไม่ขออนุญาตก่อสร้างไม่สนใจ ครม., ไม่ทำตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร อ้างว่าโครงการนี้ ครม.รับทราบแล้ว นายกฯ รู้หรือไม่ว่าเขาไปโฆษณาให้ประชาชนจองทั่วประเทศ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการอนุมัติโครงการ ไม่มีการดำเนินการเพราะต้องมีงบผูกพันจำนวนมาก ประชาชนจะถูกหลอกหรือไม่ และนายกฯ รู้หรือไม่ว่าที่อยู่อาศัยในตลาดวันนี้โอเวอร์ซัพพลายมาก และการเคหะกำลังเพิ่มหนี้โดยอ้างประชาชนที่ผ่านมาก็บริหารไม่ประสบผลสำเร็จนัก

Advertisement

นายจิรายุกล่าวอีกว่า 3.นายกฯ รู้หรือไม่ว่าผู้บริหารกระทรวงฯ และการเคหะมีเจตนาพิเศษ ได้แอบลักไก่ย่องไปจ้างเอกชนถมดินรอไว้ทั่วประเทศมูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท ทั้งๆ ที่ ครม.ยังไม่อนุมัติโครงการ นายกฯ ต้องรู้ทัน เขาแอบจ้างเอกชนถมดิน มูลค่า 821 ล้าน และหากต้องอีบิดดิ้งก็ต้องซอยสัญญาจ้างถมดินให้ต่ำกว่า 5 แสนบาท ยอดพันล้านก็ต้องซอยกว่า 1,500 สัญญา ทั้งๆ ที่ ครม.ยังไม่อนุมัติให้ทำ แต่กลับย่องไปจ้างเอกชนถมที่รอกว่าร้อยแห่ง เป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่ออะไร เวลาจ้างก่อสร้างผู้รับเหมาก็ต้องทำพร้อมก่อสร้างอยู่แล้ว และ 4.นายกฯ รู้หรือไม่ว่าผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และการเคหะฯ ซิกแซกใช้กฎหมายเลี่ยงการตรวจสอบ เอื้อประโยชน์พวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยมีเจตนาพิเศษ อาทิ แอบไปแก้วัตถุประสงค์บริษัทลูกโดยไม่ขอมติ ครม. เพื่อมารับงานถมดิน ของ กคช.อย่างผิดกฎหมาย นายกฯ รู้หรือไม่ว่าแดนสนธยา กคช.แห่งนี้นอกจากผู้บริหารกระทรวงกล้าปล่อยให้ กคช.ไปแก้วัตถุประสงค์โดยไม่ขอ ครม.แล้ว ยังบังอาจ ปล่อยให้ผู้บริหารการเคหะฯ ย่องไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่อีกแห่งโดยไม่ขอมติ ครม. และเอามารับงานการเคหะฯ เอื้อประโยชน์พวกพ้องหรือไม่ และสุดท้าย นายกฯ ต้องรู้หรือไม่ว่าผู้บริหารกระทรวงปล่อยให้ผู้บริหารการเคหะฯย่องไปถือหุ้นบริษัทเถื่อนที่จดทะเบียนไม่ขอ ครม.เพื่อมารับงาน กคช.ซึ่งผิดกฎหมาย ป.ป.ช.และมีผลประโยชน์ทับซ้อน

“ผมเห็นว่าคนรอบตัวนายกฯ ไม่ค่อยมีใครกล้าบอกความจริงเพื่อความโปร่งใส เลยทำให้นายกฯ ถูกหลอกบ่อยครั้ง ดังนั้น กมธ.จึงมีมติส่งเรื่องให้นายกฯ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวน และ กมธ.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และการเคหะแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ กมธ.พร้อมส่งพยานหลักฐานที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อลดภาระองค์กรอิสระต่างๆ อาทิ ป.ป.ช. ป.ป.ท. ในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งพยานหลักฐานการสืบหาข้อเท็จจริงนี้ค่อนข้างครบสมบูรณ์ องค์กรอิสระสามารถนำไปพิจารณาเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษได้ทันที อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนประชาชนว่า ถ้าจะจองโครงการนี้ต้องคิดให้ดี เพราะสุดท้ายแล้วอาจเสียเงินจองโดยไม่ได้อะไรเลย และอาจจะไม่ได้เงินคืนด้วยเนื่องจากโครงการนี้ผิด” นายจิรายุกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image